แนะนำเยี่ยมชมความสวยงามของยอดเขาโมอิวะ  ณ เกาะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น 

               สำหรับในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวของเกาะฮอกไกโด   โดยเมืองที่เราจะพาไปรู้จักแหล่งท่องเที่ยวในก็คือเมืองซัปโปโร

         ซึ่งเกาะฮอกไกโดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นและเมืองซัปโปโรนั้นก็อยู่บนเกาะฮอกไกโด   ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปรู้จักกันในครั้งนี้นั้นเป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก   

            สำหรับที่นี่ เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากที่เดินทางมาเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้หรืออาจจะกล่าวได้ว่าใครก็ตามที่เดินทางมาเที่ยวที่เกาะฮอกไกโดและได้เดินทางมาถึงเมืองซัปโปโรไม่มีใครที่จะพลาดที่จะไม่เดินทางมาเยี่ยมชมยังสถานที่แห่งนี้กันเลยเนื่องจากสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นจุดชมวิวมุมสูงยามค่ำคืนที่สวยที่สุด

และได้รับความนิยมจากชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่สุดเลยก็ว่าได้ซึ่งจุดชมเมืองแห่งนี้อยู่ใกล้กับเมืองซัปโปโรและเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบ 160 องศาซึ่งจุดชมวิวนี้มีความสูงประมาณ 531 เมตรโดยจุดชมวิวแห่งนี้เรียกว่ายอดเขาโมอิวะนั่นเอง 

          สำหรับจุดชมวิวแห่งนี้นะนักท่องเที่ยวจะต้องมีการนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนยอดเขา  ความสวยงามของยอดเขาโมอิวะ

ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางบนกระเช้าไฟฟ้าประมาณ 5 นาทีเนื่องจากว่าระยะทางตั้งแต่ด้านล่างไปจนถึงบนยอดเขานั้นมีความสูงประมาณ 1200 เมตรโดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาบนยอดเขาเพื่อชมวิวทิวทัศน์ได้ตั้งแต่ 10:30 น จนถึง 22:00 น ของทุกวันโดยจะเปิดให้บริการในช่วงประมาณเดือนเมษายนไปถึงเดือนพฤศจิกายน

แต่ถ้าหากว่าเป็นช่วงประมาณเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมนั้นจะมีการเปิดให้บริการประมาณ 11:00 น เป็นต้นไปจนถึง 22:00 น อย่างไรก็ตามการขึ้นไปบนยอดเขามองด้วยกระเช้าไฟฟ้านั้นจะต้องเสียค่าบริการคนละไม่ต่ำกว่า 300 เยนขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวจะใช้บริการเที่ยวเดียวหรือจะใช้บริการเป็นแบบไปและกลับนั่นเอง 

            เมื่อนักท่องเที่ยวเดินมาทางมาถึงบนยอดเขาโมอิวะแล้วนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของลมที่พัดมาโดนตัวแบบเย็นสบายเป็นอย่างมากนอกจากนี้ถ้าหากนักท่องเที่ยวอยู่ในช่วงเวลาเย็นหรือช่วงเวลายามค่ำคืนก็จะได้เห็นความสวยงามของพระอาทิตย์ตกดินในเมืองซัปโปโรแถมยังได้เห็นแสงไฟระยิบระยับที่ชาวเมืองได้มีการเปิดในช่วงเวลายามค่ำคืนซึ่งถือได้ว่าเป็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียวนอกจากนี้เมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นไปอยู่บนยอดเขาโมอิวะนักท่องเที่ยวจะเห็นลักษณะเด่นที่มีการสร้างเอาไว้นั่น

ก็คือระฆังแห่งความสุขซึ่งที่นี่คู่รักเป็นจำนวนมากมักจะพากันซื้อกุญแจมาคล้องเพื่อแสดงออกถึงสัญลักษณ์ของความรักที่จะไม่พรากจากกันและที่สำคัญบนนี้ยังมีภัตตาคารสุดหรูบริการนักท่องเที่ยวที่จะมาดื่มด่ำกับอาหารและบรรยากาศยามค่ำคืนอีกด้วย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    สล็อต ufabet แตกง่าย

ม่อนอิงดาวคาเฟ่  จังหวัดเชียงใหม่ 

            ม่อนอิงดาวคาเฟ่  จังหวัดเชียงใหม่   สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่มีวิวสวยๆแนะนำเลยว่าที่ม่อนแจ่มจังหวัดเชียงใหม่มีสถานที่ที่มีวิวสวยๆเยอะแยะมากมาย

และหนึ่งในสถานที่ที่อยากจะแนะนำให้รู้จักนั่นก็คือม่อนอิงดาวคาเฟ่   ที่นี่นั้นเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่ก็ยังสามารถสัมผัสกับวิวธรรมชาติที่มีความสวยงามนอกจากนี้ที่นี่ยังมีการเปิดบริการเป็นที่พักให้กับนักท่องเที่ยวได้อีกด้วยเรียกได้ว่าบริการหลากหลายครบวงจรเลยก็ว่าได้

          สำหรับใครที่เดินทางมาพักผ่อนที่ร้านม่อนอิงดาวคาเฟ่แห่งนี้นั้นจะต้องพบกับบรรยากาศที่โล่งสบายตา  ปลอดโปร่งตาเป็นอย่างมากเลยทีเดียวมองไปทางไหนก็เห็นสีเขียวของต้นไม้ใบไม้รวมถึงวิวภูเขาที่สวยงามที่นี่มีทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็นคอยบริการนักท่องเที่ยวสามารถที่จะไปนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆแล้วก็ชมวิวสวยๆไปในตัวสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลายเพราะว่าม่อนอิงดาวคาเฟ่แห่งนี้มีการตกแต่ง Cafe เอาไว้อย่างสวยงามเป็นแนวสไตล์มินิมอลมีความน่ารักอยู่ในตัวเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวร้าน ที่มีการสร้างเป็นลักษณะของบ้านหลังเล็กกะทัดรัดโดยบริเวณโดยรอบของตัวร้านนั้น  แทงบอลออนไลน์ ภาษาไทย    จะติดกระจกทั้งหลังเปิดเป็นหน้าต่างโล่งและทาสีขาวทั้งหลังทำให้ดูสวยงามตัดกับบรรยากาศสีเขียวขจีของบรรดาต้นไม้ใบหญ้าทั้งหลาย

           สำหรับร้านม่อนอิงดาวคาเฟ่แห่งนี้เป็นร้านที่ไม่ได้ใหญ่มากนักแต่มีการสร้างเอาไว้ด้วยสไตล์โมเดิร์นแบบลงตัวที่สำคัญทางร้านได้มีการสร้างเป็นระเบียงยื่นออกไปนอกตัวร้านเป็นสถานที่ที่เอาไว้ตั้งโต๊ะและเก้าอี้ให้นักท่องเที่ยวนั้นได้มานั่งจิบเครื่องดื่มชมวิวภูเขานอกจากนี้การตกแต่งบริเวณด้านหน้าของตัวร้านนั้นก็มีการนำเก้าอี้ sparkling มาตกแต่งประดับประดาเอาไว้ให้มองดูเท่ๆคูลคูลอย่างยิ่งสำหรับการนั่งถ่ายรูป  

       สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่สนใจมาพักผ่อนที่ม่อนอิงดาวคาเฟ่แห่งนี้สามารถที่จะเช่าเต็นท์สำหรับนอนค้างคืนเพื่อนอนดูดาวยามค่ำคืนและได้สัมผัสอากาศเย็นสบายในช่วงเวลากลางคืนบนเนินเขาของจังหวัดเชียงใหม่ที่สำคัญตื่นเช้ามาก็เจอกับอากาศที่สดชื่นเย็นสบายได้รับประทานกาแฟพร้อมกับครัวซองอร่อยๆมองวิวภูเขาสวยๆ  โดยที่นี่นักท่องเที่ยวหลายคนที่เคยเดินทางมาเที่ยวต่างก็รีวิวการให้คะแนน 10 คะแนนเต็มกันเลยทีเดียวหลายคนกล่าวว่าการเดินทางมาพักผ่อนที่ม่อนอิงดาวคาเฟ่แห่งนี้นั้นคุ้มค่ากับการเสียเวลาเดินทางมาอย่างแท้จริง 

       สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่สนใจจะเดินทางมาเที่ยวที่ม่อนอิงดาวคาเฟ่แห่งนี้สามารถเดินทางมาได้ทุกวันซึ่งพิกัดของทางร้านนั้นจะอยู่ที่ตำบลแม่แรม  อำเภอแม่ริม  หรือจะดูผ่านทาง Google Map ก็ได้เช่นกัน 

มอม้า ฟาร์มแอนด์คาเฟ่ จังหวัดกาญจนบุรี 

 

           สมบัติที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้นเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดแต่สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปรู้จักกันในครั้งนี้นั้นเชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่คิดว่าที่นี่นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวนี้ด้วยซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปรู้จักเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ชอบธรรมชาติชอบสัตว์เลี้ยงโดยที่นี่มีชื่อเรียกว่ามอม้า ฟาร์มแอนด์คาเฟ่

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

มอม้า ฟาร์มแอนด์คาเฟ่ เนื่องจากว่าสไตล์การตกแต่งของมอม้า ฟาร์มแอนด์คาเฟ่นั้นตกแต่งสไตล์แนวโรงนารวมถึงบรรยากาศออกแนวคันทรี  ดังนั้นหากใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปรวมถึงชอบบรรยากาศโรงงานสไตล์คันทรี่รับรองได้เลยว่ามาที่ มอม้า ฟาร์มแอนด์คาเฟ่ แห่งนี้จะต้องรู้สึกประทับใจกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อย่างแน่นอน 

          สำหรับลักษณะการตกแต่งทรายร้านคาเฟ่แห่งนี้นั้นจะคุมโทนเป็นโทนที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวแล้วจะรู้สึกโล่งและสบายตาซึ่งสำหรับในเรื่องของตัว Cafe หรือตัวลงหน้าต่างๆนั้นจะมีการทาสีขาวจะเน้นโทนสีขาวเป็นหลักแต่จะมีบริเวณพื้นที่โดยรอบซึ่งเป็นพวกต้นไม้นั้นก็จะเป็นโทนสีเขียวรวมถึงสนามหญ้าสีเขียวทำให้ลักษณะของพื้นที่โดยรวมส่วนใหญ่เมื่อมองไปทางไหนก็จะเห็นสีขาวกับสีเขียวสลับกันเป็นโทนที่ดูแล้วสบายตาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

      สำหรับที่ มอม้า ฟาร์มแอนด์คาเฟ่ อันนี้นั้นไม่ว่าจะเป็นภายในตัว Cafe เองหรือว่าด้านนอกของตัวคาเฟ่นั้นจะมีมุมเล็กๆตกแต่งไว้หลากหลายสไตล์เพื่อให้นักท่องเที่ยวนั้นได้เช็คอินและถ่ายรูปด้วยภายในคาเฟ่ก็จะมีบริการอาหารและเครื่องดื่มไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวซึ่งสามารถที่จะนั่งทานเครื่องดื่มรวมถึงขนมต่างๆแล้วมองบรรยากาศภายนอกคาเฟ่ซึ่งนอกตัวร้านนั้นบอกได้เลยว่าพื้นที่กว้างขวางเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

           นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจะเห็นได้ว่าลักษณะที่มีการตกแต่งเป็นสไตล์โรงนานั้นจะแบ่งเป็นโซนต่างๆเอาไว้เพื่อเป็นสถานที่สำหรับในการเลี้ยงสัตว์โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะออกไปเยี่ยมชมบรรดาโซนต่างๆภายใน มอม้า ฟาร์มแอนด์คาเฟ่แห่งนี้ได้หรือถ้าหากใครที่อยากจะให้อาหารสัตว์เลี้ยงก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

      สำหรับที่นี่นั้นหากนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้ใหญ่หรือเด็กๆรวมถึงคนที่ไปเป็นแบบครอบครัวได้มีโอกาสลองไปเที่ยวรับรองจะต้องติดใจอย่างแน่นอนสำหรับใครที่ไม่อยากจะนั่งทานเครื่องดื่มหรืออาหารภายในร้าน Cafe บริเวณนอกร้านก็มีมุมให้นักท่องเที่ยวได้นั่งทานอาหารเช่นเดียวกันซึ่งจะเป็นการนั่งทานอาหารใต้ต้นไม้ท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวขจีเล็กๆว่าเหมือนกับกรองมาปิกนิกอยู่ภายในฟาร์มแห่งนี้เลยก็ว่าได้

 

สนับสนุนโดย    gclub

โซเชียล ถกสนั่น  ร้านขึ้นป้ายรับเงินสดไม่รับโอนหรือสแกน 

โซเชียล ถกสนั่น  ร้านขึ้นป้าย เชื่อว่าปัจจุบันนี้เวลาที่หลายคนไปซื้อสินค้าหรือไปซื้อบริการที่ร้านค้าทั่วไปนั้นจะเห็นได้ว่าร้านค้าส่วนใหญ่

จะมีการเปิดให้มีการจ่ายผ่านทางแอพพลิเคชั่นหรือว่าจะเป็นลักษณะของการโอนจากธนาคารไปยังบัญชีของร้านค้าหรือใช้วิธีการสแกนเงินจาก wallet ต่างๆอย่างเช่น True wallet เป็นต้น เนื่องจากปัจจุบันนี้ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยพกเงินสดและการสแกนเงินหรือการโอนเงินนั้นเป็นการจ่ายเงินที่ค่อนข้างง่ายและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัส covid ซึ่งกำลังมีการระบาดอย่างหนักในปัจจุบันนี้อีกด้วย

       อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าทุกร้านจะมีการเปิดบริการโอนเงินหรือสแกนเงินเท่านั้นแต่มีบางร้านที่ยังคงต้องการรับเงินสดอยู่

ซึ่งในโซเชียลได้มีการนำภาพถ่ายร้านค้าแห่งหนึ่งที่มีการติดป้ายหน้าร้านยืนยันเอาไว้อย่างชัดเจนว่าไม่รับการชำระเงินผ่านช่องทางอื่นนอกจากเงินสดอย่างเดียวเท่านั้นโดยเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 6 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565 และเป็นที่มาที่ทำให้ชาวโซเชียลนั้นป่านวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับร้านค้านี้เป็นอย่างมากและมีการถกเถียงกันเนื่องจากว่าความคิดเห็นของแต่ละคนในโซเชียลนั้นแตกต่างกันออกไป

        อย่างไรก็ตามชาวโซเชียลบางคนมองว่าร้านค้าที่ไม่รับการชำระเงินผ่านช่องทางอื่นและรับเฉพาะเงินสดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เนื่องจากว่าร้านค้าต้องการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีเพื่อหากมียอดการโอนเงินเข้าก็จะสามารถตรวจสอบรายได้ของเจ้าของบัญชีได้ซึ่งภาษีก็จะมีการเรียกเก็บอย่างแน่นอน ดังนั้นเจ้าของร้านจงหัวใสรับชำระเป็นเงินสดเพียงอย่างเดียว

    แต่บาง Comment ของชาวโซเชียลก็มองว่าร้านค้าบางร้านไม่ใช่ร้านใหญ่  ufabet เว็บตรง    ดังนั้นเมื่อขายสินค้าเงินเข้าเงินออกจะเป็นลักษณะของเงินหมุนเวียนการรับโอนเงินเข้ามานั้นหากจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก็จะต้องไปเบิกที่ธนาคารซึ่งเกิดความยุ่งยากให้กับเจ้าของร้านดังนั้นร้านค้าที่ไม่ได้ใหญ่หรือมีสินค้าขายเยอะแยะมากมายนักจึงเลือกใช้การรับเฉพาะเงินสดเพียงอย่างเดียวเท่านั้นไม่ได้ต้องการที่จะหลีกเลี่ยงภาษี 

          อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าในปัจจุบันนี้การพกเงินสดนั้นมีคนพบน้อยมากดังนั้นถ้าหากร้านค้าอยากขายสินค้าได้ดีจำเป็นที่จะต้องรับการชำระเงินทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการรับชำระเงินแบบเงินสดหรืออาจจะมีการโอนเงินผ่านทางบัญชีธนาคารหรือสแกนเพื่อที่ลูกค้าจะได้มีทางเลือกเพราะมีลูกค้าหลายคนที่ปัจจุบันไม่มีการกดเงินจากตู้ atm มาใช้แล้วแต่นี่เป็นวิธีการสแกนหรือการโอนเงินแทนเพราะสะดวกและรวดเร็ว  ดังนั้นถ้าหากยังคงต้องการขายสินค้าได้ทางร้านเองก็ควรที่จะมีการปรับวิธีการชำระเงินเพื่อความสะดวกของลูกค้าในอนาคต

ร้านบุฟเฟ่ต์ เจอลูกค้าเบี้ยวค่าปรับ ซ่อนซูชิอย่างเนียน 

         การบูชาส่วนใหญ่ที่เปิดมามักจะพบปัญหาเกี่ยวกับการที่ลูกค้ามากินอาหารและสั่งเยอะมากจนเกินไปจนเกิดการกินเหลือและ

โดยปกติแล้วร้านบุฟเฟ่ต์ก็จะมีการแจ้งกับทางลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้านอยู่แล้วว่าถ้าหากว่าตัดมาเยอะเกินและกินไม่หมดของที่เหลือทำงานจะมีการเรียกเก็บค่าปรับตามน้ำหนักซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะคิดเป็นกิโลกรัมละ 15 ถึง 20 บาท

         อย่างไรก็ตามเรามักจะพบเห็นเป็นประจำว่าลูกค้าหลายคนที่ไปกินอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ร้านและกลับมาเยอะมากจนเกินไปสุดท้ายก็กินไม่หมดแต่ก็ไม่อยากที่จะเสียค่าปรับจึงมักมีวิธีการต่างๆนานา

ที่จะต้องอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ตนเองกินเหลือ และกว่าที่เจ้าของร้านจะมาเห็นว่าลูกค้าหัวหมอแอบเอาของเหลือไปทิ้งลูกค้าก็ออกจากร้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ร้านบุฟเฟ่ต์ เจอลูกค้าเบี้ยวค่าปรับ  ล่าสุดมีร้านซูชิบุฟเฟ่ต์ร้านนึงในจังหวัดนครปฐมได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวผ่านทาง Social

เมื่อวันที่ 10 เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2565 โดยทางร้านได้มีการโพสต์ภาพที่ลูกค้าไปใช้บริการที่ร้านแล้วกินซูชิไม่หมดนำซูชิไปทิ้งไว้ตามซอกโต๊ะและเก้าอี้ที่นั่งกินซึ่งเป็นจุดมุมอับทำให้พนักงานมองไม่เห็นโดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่แอบนำไปทิ้งนั้นก็หวังว่าจะไม่ต้องต้องเสียเงินค่าปรับจากการกินเหลืออย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้กับเจ้าของร้านซูชิเป็นอย่างมาก 

          นอกจากเจ้าของร้านซูชิจะนำภาพดังกล่าวมาโพสต์ลงในโซเชียลแล้วยังได้มีการเขียนข้อความวิงวอนลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ร้านซูชิว่าถ้าหากกินไม่หมดก็สามารถที่จะบอกกับทางร้านได้ซึ่งถ้าหากว่าของกินไม่เหลือเยอะมากจนเกินไปโดยปกติแล้วทางร้านก็มีการอนุโลมให้ไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าปรับแต่ไม่อยากที่จะให้ลูกค้าที่กินซูชิเหลือนำซูชิไปทิ้งไว้ตามซอกเนื่องจากว่ามันจะทำให้ร้านสกปรกมีกลิ่นเหม็นและที่สำคัญทำให้มีแมลงสาบและหนูนำเชื้อโรคต่างๆเข้ามาในร้านได้ 

      อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจกับเจ้าของร้านที่ทำธุรกิจบุฟเฟ่ต์เป็นอย่างมาก  ufabet เว็บตรง    เนื่องจากว่าการทำร้านธุรกิจบุฟเฟ่ต์นั้นจะเป็นการเปิดให้ลูกค้าสามารถกินได้ไม่อั้นในช่วงเวลาที่กำหนดซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะอยู่ที่ 1 ชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่ง

ซึ่งถ้าหากลูกค้าเป็นคนที่กินจุอยู่แล้วก็มีความเสี่ยงสูงที่ทางร้านอาจจะขาดทุนได้และยิ่งต้องมาเจอลูกค้าบางคนที่สั่งมาเยอะทั้งที่ตนเองกินน้อยแล้วพอกินเหลือก็นำแอบไปทิ้งก็ทำให้ทางร้านต้องสูญเสียวัตถุดิบไปแทนที่จะขายให้กับคนอื่นได้  ดังนั้นอยากให้คนที่นิยมกินอาหารบุฟเฟ่ต์ให้เข้าใจถึงคนทำธุรกิจบุฟเฟ่ด้วยว่าสามารถค่อยๆสั่งได้และเมื่อกินหมดก็ค่อยสั่งใหม่ รับรองว่าจะไม่เหลือและไม่ถูกปรับเงินอย่างแน่นอน 

พบศพคุณยายวัย 80 ปีเหตุเพลิงไหม้ตลาดที่ปักธงชัย 

         จากกรณีที่เมื่อวันที่ 10 เดือนเมษายนปีพศ. 2565 มีเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่บริเวณตลาดชุมชนปักธงชัยจังหวัดนครราชสีมาซึ่งเวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 04:30 น

พบศพคุณยายวัย 80 ปีเหตุเพลิงไหม้ โดยตลาดได้รับความเสียหายอย่างหนักมีห้องแถวจำนวน 8 ห้องที่ถูกไฟไหม้พร้อมกันนี้มีการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่าบ้านซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดไฟลุกไหม้นั้นคือบ้านของนางศรีซึ่งเป็นคุณยายวัย 80 ปี

        โดยในช่วงเวลาเกิดเหตุนั้นคุณยายวัย 88 ปีเห็นว่ามีเสียงระเบิดมาจากบ้านของยายศรี  แต่คุณยายวัย 88 ปีไม่รู้ว่ายายศรีสามารถวิ่งออกมาจากจุดระเบิดได้หรือไม่จนภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จึงได้มีการส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่ามีความเสียหายมากแค่ไหนและมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุหรือไม่อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณซากไม้ในจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้พบร่างหญิงชราวัย 80 ปีที่ชื่อนางศรีนอนเสียชีวิตอยู่โดยสภาพของนางสีนั้นถูกไฟไหม้มากกว่า 90% 

          อย่างไรก็ตามเพื่อนบ้านของนางสีซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของนางสีนั้นได้ให้ข้อมูลตรงกันว่าช่วงเวลาประมาณ 4 โมงนะได้ยินเสียงระเบิดขึ้นซึ่งหลายคนชื่อว่าเป็นเหตุการณ์แก๊สระเบิด

โดยเสียงระเบิดนั้นดังออกมาจากบ้านของนางสีแต่ละคนนั้นก็พยายามวิ่งหนีออกมาเพราะเกรงอันตรายจากไฟไหม้   ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่านางศรีน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่แก๊สระเบิดแล้ว   

             สำหรับบ้านของนางสีนั้นเปิดเป็นร้านขายลอตเตอรี่   และเปิดเป็นที่อยู่อาศัยซึ่งเชื่อว่าในช่วงเวลาประมาณ 16:00 น สีน่าจะมีการทำอาหาร  จึงทำให้เกิดเหตุการณ์แก๊สระเบิดเกิดขึ้นอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ตลาดปักธงชัยอีกครั้งหนึ่งส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีการส่งตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งโดยจะต้องมีการรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปทำการตรวจสอบซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถหาข้อสรุปมูลค่าความเสียหายได้ 

       สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ตลาดปักธงชัยในครั้งนี้นั้นจากการสำรวจของทางเจ้าหน้าที่ กู้ภัยพบว่ามีผู้เสียชีวิตเพียงแค่คนเดียวนั่นก็คือยัยสีอายุ 80 ปีเท่านั้นส่วนคนอื่นๆนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะทุกคนนั้นสามารถที่จะวิ่งหนีออกมาได้ มีเพียงทรัพย์สินเท่านั้นที่เสียหายและบ้านเรือนพังเสียหายซึ่งในขณะนี้หน่วยงานของทางเทศบาลเมืองปากได้มีการเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาบรรเทาสาธารณภัยเบื้องต้นให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากไฟไหม้ในครั้งนี้แล้ว

 

สนับสนุนโดย.  www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ

ชายคลั่งรักอ้างเป็นตำรวจบุกชิงตัวสาวติดโควิด-19 ที่ Hospital 

    ชายคลั่งรักอ้างเป็นตำรวจบุกชิงตัวสาว เมื่อวันที่ 20 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ช่วงเวลาประมาณ 04:00 น ได้มีชายฉกรรจ์ประมาณ 3-4 คนบุกเข้าไปที่ Hospital โรงแรม ST Holiday

ซึ่งเป็นสถานที่กักตัวผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19   โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ได้มีการยื่นเอกสารระบุเป็นหมายจับนางสาวสุพิชาโดยถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์  โดยหลังจากที่มีการยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ดูแล้วชายฉกรรจ์ทั้งหมดก็พากันไปฉุดกระชากลากถู นางสาวสุพิชชาออกจากHospital โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ของHospital ไม่ได้มีการช่วยเหลือแต่อย่างใด 

     อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ พ่อของนางสาวสุพิชาได้รับการติดต่อจากลูกสาวที่แอบใช้โทรศัพท์มือถือส่งพิกัดมาหาพร้อมกับระบุว่าถูกชายฉกรรจ์ลักพาตัวมาจาก Hospital   โดยลูกสาวระบุว่าหนึ่งในชายที่ไปลักพาตัวมานั้นเป็นคนที่กำลังจีบเธออยู่ซึ่งตอนหลังนั้นเธอพยายามตีตัวออกห่างเนื่องจากสังเกตเห็นว่าชายคนดังกล่าวนั้นมีอารมณ์และพฤติกรรมที่รุนแรง

        อย่างไรก็ตามเธอยังไม่ได้มีการบอกเลิกอย่างเป็นทางการแต่มาติดไวรัสโควิด-19 ก่อนทำให้ต้องเข้ารับการรักษาอาการป่วยที่ Hospital  โรงแรม ST Holiday โดยที่ไม่ได้แจ้งฝ่ายชายว่าหายตัวไปไหน ซึ่งเชื่อว่าฝ่ายชายน่าพยายามติดตามหาจนรู้ว่าเธอมารักษาตัวอยู่ที่ Hospital  จึงได้มาตามตัวไปกักขังไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งนางสาวสุพิชาได้มีการส่งที่อยู่มาให้เพื่อเป็นพ่อเพื่อให้เข้าไปช่วยเหลือนำตัวออกมาจากคอนโด

        อย่างไรก็ตามในขณะที่พ่อของนางสาวสุภชาและเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงคอนโดดังกล่าวนั้นไม่พบคนร้ายเพียงแค่นางสาวสุพิชชาอยู่ภายในห้องเพียงคนเดียวเท่านั้นจึงช่วยเหลือออกมาได้ในขณะเดียวกันพ่อของนางสาวสุนิชานั้นได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดHospital  โรงแรม ST Holiday ที่มีการปล่อยปละละเลยให้คนร้ายเข้าไปลักตัวลูกสาวของตนเองถึงภายในHospital  โดยที่ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลให้ดีเสียก่อน

      เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ของ Hospital  ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทางคนร้ายได้มีการยื่นเอกสารซึ่งเป็นหมาย นอกจากนี้ยังแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางเจ้าหน้าที่ของHospital  จึงไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร  อย่างไรก็ตามพ่อของนางสาวพิชญายืนยันจะเอาผิด เจ้าหน้าที่Hospital  เนื่องจากว่าเอกสารที่มีการนำไปแสดงนั้นเป็นเพียงแค่หมายเรียกพยานเท่านั้น

       นอกจากนี้คนที่อ้างตัวเป็นตำรวจก็ไม่ได้มีการแต่งเครื่องแบบตำรวจ ที่สำคัญไม่ได้สวมชุด ppe และที่นอกเหนือสิ่งอื่นใดก็คือก่อนที่จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวลูกของเขาไปควรจะต้องมีการแจ้งครอบครัวของเขาก่อนแต่พนักงานไม่ได้มีการแจ้งใดๆซึ่งทำให้ลูกของเขานั้นเกือบได้รับอันตราย ทำให้ผู้เป็นพ่อของนางสาวสุพิชชาตัดสินใจเอาผิดเจ้าหน้าที่Hospital นั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย   ufabet

สาวแสบ สร้างโลกไฮโซทิพย์ หลอกคนรวยแต่งงาน

 

 เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศเวียดนามได้เปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งเมื่อวันที่ 14 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565

    ซึ่งเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์ในประเทศเวียดนามอยู่ในตอนนี้ โดยหญิงสาวรายนี้เธอชื่อว่า VA สิ่งที่ทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์ให้ความสนใจหญิงสาวรายนี้ก็เพราะว่ามีคนออกมาแฉถึงพฤติกรรมของเธอว่ามีการหลอกผู้คนผ่านทาง Social ว่าตนเองนั้นเป็นคนรวยเพื่อหวังที่จะแต่งงานกับคนที่รวยแล้วเธอก็ประสบความสำเร็จ   เมื่อเธอสามารถแต่งงานกับชายหนุ่มที่ร่ำรวยและได้เงินจากการแต่งงานไปในครั้งนั้นมากกว่า 20 ล้านบาทเลยทีเดียว 

         สาวแสบ สร้างโลกไฮโซทิพย์ จากการเปิดเผยเรื่องราวของ VA ว่าเธอเป็นคนประเทศเวียดนามอาศัยอยู่ที่จังหวัดบั๊กซาง   พฤติกรรมของ VA ก็คือ จะมีการสร้างภาพในโลกออนไลน์ว่าตนเองเป็นคนรวยด้วยการขับรถ Super car และใช้แต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมรวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนมนอกจากนี้ยังอาศัยอยู่ในบ้านหรือกลางกรุงฮานอย 

         อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นรถซุปเปอร์คาร์หรือแม้แต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมรวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนมนั้นเป็นสิ่งที่ VA

แต่งเรื่องขึ้นมาทั้งสิ้นเพราะกระเป๋าแบรนด์เนมรวมถึงเสื้อผ้าแบรนด์เนมนั้นเป็นของปลอมในขณะที่รถซุปเปอร์คาร์และบ้านหรูนั้นเป็นของที่ VA ส่งมาทั้งสิ้นและVA ยังมักจะถ่ายรูปต่างๆลงในโซเชียลทำให้คนเข้าใจว่าเธอนั้นเป็นคนรวยจริง 

        อย่างไรก็ตามความพยายามของ VA ประสบความสำเร็จเมื่อเธอรู้จักกับชายหนุ่มรายหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นเศรษฐีในประเทศเวียดนามและทั้งคู่ก็ตัดสินใจแต่งงานกันซึ่งในวันแต่งงานนั้น VA ยังได้มีการเช่ารถซุปเปอร์คาร์ให้ส่งมาที่งานแต่งงานของเธอโดยบอกกับว่าที่เจ้าบ่าวของเธอว่าพ่อแม่เธอส่งมาให้เพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงาน

นอกจากนี้เธอยังได้จ้างคนมาร่วมงานอีกมากกว่า 300 คนเดินให้ค่าจ้างหัวละ 460 ถึง 770 บาทในขณะที่เธอลงทุนเรื่องของค่าใช้จ่ายอื่นๆมูลค่าที่จะลงทุนไปนั้นประมาณ 1.5 ล้านบาทซึ่งเงินดังกล่าวนั้นเธอได้มาจากการไปกู้ยืมเงินมา

          ภายหลังจากการแต่งงานเสร็จสิ้น VA นายจ้างนักศึกษา 2 คนให้มารับหน้าที่เป็นพนักงานด้านเอกสารเพื่อให้สามีของเธอนั้นเซ็นยินยอมยกบ้านให้กับเธอ นอกจากนี้ VA ยังมักจะไปยืมเงินจากคนรู้จักของสามีรวมถึงญาติพี่น้องของสามีของเธอมา  ซึ่งยอดเงินจากบ้านรวมถึงเงินที่เธอไปยืมกับคนอื่นๆมานั้นมีมูลค่าประมาณถึง 26 ล้านบาทเลยทีเดียว 

            อย่างไรก็ตามหลังจากที่สามีของเธอและญาติของสามีของเธอรู้ความจริงต่างก็พากันไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะ VA  กำลังตั้งครรภ์ซึ่งครอบครัวของสามีเธอก็ได้มีการตั้งเงื่อนไขเอาไว้ว่าจะดูแลเธอจนกว่าเธอจะคลอดลูกหลังจากนั้นจะนำเด็กมาเลี้ยงดูเองส่วนตัวของVA งั้นก็ไปใช้ชีวิตที่อื่นอาจจะไปอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดของเธอก็ได้ 

 

สนับสนุนโดย    gclub ผ่านเว็บ

พบศพครูหนิง ถูกถ่วงน้ำ คนร้ายคือแฟนทหาร

         พบศพครูหนิง ถูกถ่วงน้ำ  ในโลกออนไลน์ได้มีการประกาศตามหาครูสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่าครูหนิง  เนื่องจากว่าญาติพี่น้องไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่ ช่วงเวลาหนึ่งทุ่มของวันที่ 26 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565  ซึ่งในวันที่หายตัวไปนั้นครูหนิงหายไปพร้อมกับรถโตโยต้าสีบรอนซ์เทา  อย่างไรก็ตามหลังจากที่ญาติพี่น้องประกาศตามหาครูหนิง ผ่านทางออนไลน์ และสื่อโซเชียลต่างๆ แต่ก็ปรากฏว่าไม่มีใครพบเบาะแสใดใดทั้งสิ้น 

           สำหรับทางฝั่งญาติพี่น้องของครูหนิงเองนอกจากจะมีการประกาศตามหาผ่านทาง Social แล้วก็ได้มีการแจ้งความติดตามคนหายไว้ที่สถานีตำรวจซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามติดตามหาตัวครูหนิงซึ่งคาดว่าครูหนิงน่าจะมีการถูกลักพาตัวไปดังนั้นจึงได้มีการเชิญคนที่ใกล้ชิดกับครูหนิงมาสอบปากคำทุกคน

            ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนร้ายที่พาตัวครูหนิง ไปได้แล้วซึ่งก็คือแฟนหนุ่มของคุณหนิงนั่นเองโดยชายคนดังกล่าวนั้นคือ  จ.ส.อ.  สุรินทร์  ได้ทำการรับสารภาพแล้วว่าเป็นคนพาครูหนิง ไปและทะเลาะกับครูหนิงจนมีการทำร้ายร่างกายกันสุดท้ายเกิดบันดาลโทสะใช้มือบีบคอจนครูหนิงเสียชีวิต

            จากการคำให้การของ  จ.ส.อ.  สุรินทร์  ระบุว่าหลังจากฆ่าแฟนสาวแล้วได้นำรถยนต์ของแฟนสาวไปจำนำไว้ที่ร้านแห่งหนึ่ง ที่อำเภอท่ายาง ส่วนการก่อเหตุฆ่าแฟนสาวในครั้งนี้เพราะอารมณ์หึงหวง 

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่คุณหญิงเสียชีวิตแล้ว คนร้ายได้ใช้มีดกรีดไปตามร่างกายแล้ว    ufabet เว็บหลัก    นำร่างของครูหนิงผูกติดกับก้อนอิฐรวมถึงเหล็กแล้วนำไปถ่วงทิ้งไว้บ่อน้ำ  ซึ่งบ่ดังกล่าวนั้นเป็นบ่อน้ำภายในสวนกล้วยของคนร้ายเอง    ภายหลังจากที่คนร้ายให้การรับสารภาพและพาไปยังจุดที่มีการทิ้งศพครูหนิงไว้เจ้าหน้าที่ก็ลงไปงมศพครูหนิง ภายในบ่อน้ำทันทีโดยช่วงเวลาประมาณ 22:30 น เจ้าหน้าที่ก็พบศพของครูหนิงและนำร่างขึ้นมาจากบ่อน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

         เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานญาติพี่น้องของครูหนิงให้รับทราบและนำร่างของครูหนิงไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการชันสูตรศพก่อนที่จะปล่อยให้ญาตินำร่างของครูหนิงไปทำพิธีทางศาสนาต่อไปส่วนทางด้าน   จ.ส.อ.  สุรินทร์  ซึ่งเป็นคนร้ายในคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการแจ้งข้อหาและนำตัวไปดำเนินคดีรับผิดตามกฎหมายต่อไป 

         ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีคนที่ต้องตายเพราะสาเหตุมาจากการหึงหวง และเขม่นกัน ไม่พอใจกันทุกวันเลยก็ว่าได้ และสิ่งต่างๆเหล่านี้กำลังแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีปัญหาด้านสุขภาพจิตมากขึ้น อารมณ์ร้อนกันเยอะขึ้นนั่นเอง

สาวแก้เผ็ด พนักงานร้านแบรนด์เนม หลังดูถูกแม่ของเธอ 

มีผู้ใช้บริการ App tiktok รายหนึ่งซึ่งเธอเป็นหญิงสาวชาวสิงคโปร์เธอได้มีการโพสต์คริสต์เล่าประสบการณ์การซื้อสินค้าแบรนด์เนมในต่างประเทศ

สาวแก้เผ็ด พนักงานร้านแบรนด์เนม โดยคลิปของเธอถูกเปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 18 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ.  2565 ซึ่งเธอมีการระบุในแคปชั่น tiktok ของเธอว่า  เป็นการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ที่ไม่ค่อยประทับใจ แต่อย่าให้ใครมาดูถูกแม่ของคุณ 

        สำหรับเรื่องราวของหญิงสาวชาวสิงคโปร์รายนี้ระบุว่าเธอและแม่ของเธอเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอิตาลี  โดยเธอ และแม่ของเธอนั้นไปพักผ่อนที่กรุงโรม ซึ่งแม่ของเธอได้เดินทางไปดูกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อหนึ่ง โดยวันที่เดินทางไปนั้นแต่งตัวด้วยชุดธรรมดาหลังจากที่เข้าไปในร้านแบรนด์เนมดังกล่าวแล้วปรากฏว่าพนักงานมีปฏิกิริยาที่ไม่ดีใส่แม่ของเธอทำกิริยาที่แย่ๆใส่แม่ของเธอนอกจากนี้ยังไม่สนใจที่จะบริการแม่ของเธอและหันไปสนใจบริการลูกค้าคนอื่นแทน   แม่ของเธอจึงได้กลับมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง 

         อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ระบุว่าหลังจากที่เธอได้ฟังที่แม่เธอเล่าแล้วเธอรู้สึกโกรธพนักงานขายคนนั้นมากและเธอต้องการเอาคืนพนักงานขายคนนั้นวันรุ่งขึ้นเธอจึงได้ชวนแม่ของเธอไปช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่ร้านเดิมแต่แม่ของเธอนั้นได้มีการห้ามปรามเธอแต่เธอตัดสินใจที่จะแก้แค้นพนักงานคนดังกล่าวแทนแม่ของเธอเพราะเธอไม่ต้องการให้ใครมาดูถูกแม่ของเธอ

       สำหรับวิธีการแก้แค้นของหญิงสาวรายนี้เธอเดินทางไปกับแม่ของเธอที่ร้านกระเป๋าแบรนด์เนมร้านเดิมหลังจากนั้นก็เข้าไปในร้านแล้วทำทีเป็นเลือกซื้อกระเป๋านอกจากนี้เธอยังเรื่อยๆพูดคุยกับพนักงานขายอีกคนนึงซึ่งเมื่อเธอถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของกระเป๋าพนักงานขายคนดังกล่าวก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี    ทางเข้า UFABET ภาษาไทย       ดังนั้นเธอจึงซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังกล่าวมาหลายใบโดยเธอซื้อทุกใบที่พนักงานได้มีการแนะนำเธอซึ่งมีการคิดเงินแล้วมีมูลค่าหลายแสนบาทเลยทีเดียว

      อย่างไรก็ตามหญิงสาวชาวสิงคโปร์คนนี้ได้มีการระบุเพิ่มเติมด้วยว่าในขณะที่เธอกำลังยืนจ่ายเงินค่ากระเป๋าแบรนด์เนมอยู่นั้นพนักงานขายที่เคยปฏิบัติกับแม่ของเธอไม่ดีก็ได้มาพูดแสดงความยินดีกับเพื่อนพนักงานที่ขายกระเป๋าให้กับเธอด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างประชดประชัน  สำหรับเรื่องนี้ หญิงสาวชาวสิงคโปร์ยืนยันว่าเธอต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่าแม่ของเธอนั้นต้องมีความสุขและใครก็ไม่สามารถมาดูถูกได้ของเธอได้ นอกจากนี้เธอยังพูดถึงการให้บริการของพนักงาน ว่ามีแต่ละร้านค้านั้นก็ต้องมีพนักงานที่บริการดีและไม่ดีปะปนกันไป