Udaipur  เมืองสีขาว  ประเทศอินเดีย

           สำหรับใครที่อยากที่จะลองเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ Udaipur  เมืองสีขาว และเบื่อกับการไปเที่ยวที่ประเทศฮ่องกง หรือญี่ปุ่นรวมถึงเกาหลีใต้กันแล้ว  รวมถึงเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน หรือสถานที่ต่างต่าง อยากเห็นอารยธรรมของชาวต่างชาติ  ชื่นชมการทำบุญและชมศาสนสถานที่สวยงามบอกได้เลยว่าประเทศที่ควรไปเที่ยวก็คือประเทศอินเดียนั้นเอง

            หลายคนเมื่อได้ยินชื่อประเทศอินเดีย ย่อมคิดถึงแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นการเที่ยวแบบทำบุญ  เพราะคนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่อินเดียส่วนมากก็มักจะมาแสวงบุญ อย่างเช่น เหล่าบรรดา ดาราทั้งหลายของไทย มักจะซื้อทัวร์มาแสวงบุญในประเทศอินเดีย เพราะที่นี่คือแหล่งกำเนิดของศาสนาพุทธนั่นเอง ดังนั้นจึงมีนักทอ่งเที่ยวบางกลุ่มอยากจะมาเที่ยวตามรอยพระพุทธศาสนา

          อย่างไรก็ตามประเทศอินเดีย มีดีมากกว่าการการทอ่งเที่ยวตามรอยพระพุทธศาสนา  เพราะประเทศนี้มีสิ่งก่อสร้างมากมายที่มีความงดงามและทรงคุณค่า มีประวัติความเป็นมาหลายร้อยหลายพันปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่ามาเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นสำหรับการแนะนำสถานที่สำหรับการมาเที่ยวในประเทศอินเดียในครั้งนี้ อยากให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวตามเมืองต่างต่างของอินเดียว แล้วจะเห็นว่าเมืองแต่ละเมืองของอินเดียมีความสวยงามเพียงใด 

         สำหรับเมืองที่อยากจะให้รู้จักต่อไปนี้เมืองนี้มีชื่อเรียกว่า   Udaipur หรือว่า เมืองสีขาว นั่นเอง ซึ่ง เมืองนี้มีชื่อเรียกที่ออกเสียงแบบไทยไทย ว่าอุทัยปุระและมีอีกชื่อฉายาก็คือเมืองแห่งทะเลสาบเหตุผลเพราะว่ามีทะเลสาบเป็นจำนวนมากเป็นอีกหนึ่งเมืองที่สุดโรแมนติกประจำรัฐราชสถาน

            ที่เมืองแห่งนี้นั้นจะเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนและปราสาทราชวังโดยรอบทะเลสาบซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้หินอ่อนสีขาวที่ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือยามค่ำคืนก็ล้วนสวยงามสะดุดตาจึงเป็นที่มาของฉายาเมืองสีขาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรม Lake Palace  Hotel  ซึ่งดัดแปลงมาจากพระราชวังฤดูร้อนของเจ้าผู้ครองนครเป็นสิ่งก่อสร้างที่อยู่บนเกาะและดูเหมือนลอยอยู่กลางทะเลสาบ picora ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการปรับตัวของราชนิกูลที่สืบเชื้อสายจากกษัตริย์ให้เข้ากับยุคสมัย

         โดยการนำทรัพย์สินมาปรับปรุงเพื่อสร้างรายได้ให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสบรรยากาศของการใช้ชีวิตในพระราชวังรวมถึง City Palace พระราชวังประจำเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและสวยงามอลังการที่สุดในรัฐราชสถานซึ่งทายาทกันพื้นที่บางส่วนเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้คนทั่วไปได้

มาเยี่ยมชมเก็บค่าเข้าชมจากนักท่องเที่ยวทำให้มีรายได้มาบำรุงรักษาพระราชวังในขณะเดียวกันยังมีผู้สืบเชื้อสายจากเจ้าผู้ครองนครอาศัยอยู่ในพระราชวังในส่วนที่กันไว้เป็นที่อยู่อาศัยส่วนตัวได้ในเวลาเดียวกัน 

 

สนับสนุนโดย.  เว็บพนัน gclub

ความสวยงามของสถานที่ทอ่งเที่ยวในแคลิฟอร์เนีย  2 แห่ง 2 สไตส์ 

         สถานที่ท่องเที่ยวที่อยากแนะนำ แคลิฟอร์เนีย  2 แห่ง 2 สไตส์ ให้รู้จักกันในครั้งนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ในที่ประเทศสหรัฐอเมริกาหรือเราจะเลือกไปเที่ยวที่เมืองไทยเฟอร์เนียซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายแห่งและทีเดียวส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปรู้จักนั้นจะมี 2 แห่งซึ่งเป็น 2 สไตล์ ซึ่งทั้งสองแห่งนั้นตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเป็นคนละที่มาดูกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากจะพาไปรู้จักนั้นคือที่ใดบ้าง

อุทยานแห่งชาติ  Yosemite  แคลิฟอร์เนีย

     หุบเขา  Yosemite  เป็นมรดกทางธรรมชาติที่อุดมไปด้วยผืนป่าและทุ่งหญ้าความงามของอุทยานแห่งชาติ  Yosemite  นั้น เป็นเรื่องที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง ใครใครก็มักจะพูดเกี่ยวกับความสวยงามของสถานที่แห่งนี้กันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวเนื่องจากมันถูกสร้างสรรค์ด้วยศิลปะทางธรรมชาติที่ไม่อาจละสายตาได้

         สำหรับความสวยงามที่มีการพูดถึงกันมาก ยกตัวอย่างเช่น  ภูเขา half Dome ที่มีความยาวถึง 11 กิโลเมตรและกว้างกว่า 1.6 กิโลเมตรจุดชมวิว glacier Point  รวมถึงน้ำตก Vernal Falls  และน้ำตก Bridalveil Falls นอกจากนี้ยังมีน้ำตก Yosemite Falls และยังมีน้ำตกสำคัญอีกหลายแห่งอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหน้าผา El  Capitan ที่มีความสูง 3000 ฟุตซึ่งถือเป็นหน้าผาหินแกรนิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตีและเป็นสถานที่ท้าทายสำหรับนักปีนผาหินด้วย 

 เขามรณะ แคลิฟอร์เนีย

          สำหรับหุบเขามรณะน้ำสถานที่แห่งนี้ได้มีชื่อเรียกว่าเป็นสถานที่ที่มีความร้อนมากที่สุดนอกจากนี้ยังอยู่ในสถานที่ที่มีความต่ำกว่าระดับน้ำทะเลซึ่งถือว่าอยู่ต่ำมากที่สุดอีกด้วย  โดยสถานที่แห่งนี้นั่นตั้งอยู่ในในทวีปอเมริกาเหนือเขามรณะ  เขามรณะเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอเมริกาโดยมีพื้นที่กว้างขวางถึง 3.1 ล้านเอเคอร์หรือประมาณ 12545 ตารางกิโลเมตรสาเหตุที่ทำให้หุบเขามรณะนั้นมีสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งเกิดจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา 

         สำหรับเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้หุบเขาแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่มีความร้อนมากมากนั่นก็เพราะว่าในส่วนหนึ่งของหุบเขามรณะคือทะเลทรายโมฮาวีเต็มไปด้วยเกลือโซเดียมและบอแรกซ์ทำให้คาดการณ์ได้ว่าแผ่นดินตรงนี้เคยเป็นทะเลสาบมาก่อนนอกจากนั้นยังมีการค้นพบหินปูนและหินทรายจำนวนมากอีกด้วย

         หลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าถิ่นวิชาเป็นชนเผ่าดั้งเดิมของอเมริกามาเมื่อหลายพันปีก่อนปัจจุบันหุบเขามรณะอาศัยอยู่มากมายอาทิสิงโตภูเขาแกะเขาใหญ่ก็อดแคทคิดอย่างไรก็ตามปัจจุบันพื้นที่บริเวณนี้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้จะมีเพียงต้นไม้เตี้ยเท่านั้นที่สามารถมีชีวิตรอดในอุณหภูมิที่สูงกว่า 43 องศาเซลเซียส 

 

สนับสนุนเร่องราวโดย.    Gclub ฟรี 100

วัดศรีชุม จังหวัดลำปาง   

   ตรงบริเวณถนนศรีชุมแม่วะซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของอำเภอเมืองจังหวัดลำปางจะมีวัดเก่าแก่วัดหนึ่งซึ่งเป็นวัดที่มีลักษณะของการก่อสร้างในรูปแบบของวัดพม่านอกจากนี้ยังเป็นวัดที่อยู่ที่สุดในประเทศไทยโดยวัดดังกล่าวนั้นชื่อว่าวัดศรีชุมซึ่งวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาในตั้งแต่พุทธศักราชปีพ.ศ 2433   

        สำหรับใครยังไม่เคยเห็นวัดพม่าเพราะอาจจะไม่มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศพม่าในประเทศไทยก็สามารถมาเยี่ยมชมได้ที่จังหวัดลำปางนั่นก็คือวัดศรีชุมแห่งนี้นั่นเอง

ตามข้อมูลของการบันทึกเกี่ยวกับเรื่องของการก่อสร้างวัดศรีชุมนั้นระบุว่ามีคหบดีที่ชื่อว่าอู่โยซึ่งเป็นชาวพม่าได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยเป็นผู้ติดตามของคนอังกฤษเข้ามาทำป่าไม้  แล้วเกิดติดใจในประเทศไทยจึงได้มีการสร้างวัดศรีชุมแห่งนี้ขึ้นมา

โดยมีการนำศิลปะการก่อสร้างของวัดในรูปแบบของพม่านำมาก่อสร้างไว้ที่วัดแห่งนี้จุดเด่นของความสวยงามของวัดแห่งนี้ที่ทำให้ตราตรึงใจนักท่องเที่ยวและอยากเดินทางมาชมความสวยงามนั่นก็คือพระวิหาร

         ซึ่งพระวิหารที่นี่นั้นถูกออกแบบในรูปแบบของศิลปะสไตล์ล้านนาและพม่าผสมผสานกันโดยตัวอาคารนั้นจะเป็นกึ่งไม้กึ่งตึกที่สำคัญหลังคาของพระวิหารแห่งนี้มีการนำไม้มาแกะสลักลวดลายไว้อย่างวิจิตรบรรจงสวยงามเป็นอย่างมากจนทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดลำปางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพราะอยากจะไม่เห็นความสวยงาม

ของวัดศรีชุมว่ามีลักษณะของการก่อสร้างในรูปแบบไหนอย่างไรก็ตามด้วยความสวยงามและความโบราณเก่าแก่ของวัดแห่งนี้จึงทำให้ได้รับการลงทะเบียนขึ้นเป็นโบราณสถานโดยมีการลงทะเบียนเอาไว้ตั้งแต่ช่วงประมาณปีพศ 2524

            แต่แล้วในช่วงประมาณปีพศ 2535 ซึ่งตรงกับวันที่ 16 เดือนมกราคมเกิดไฟไหม้ที่พระวิหารแห่งนี้สร้างความเสียหายให้กับพระวิหารทั้งหลังเหลือเพียงซากปรักหักพังเป็นเพียงไม้แกะสลักเล็กน้อยเพียงอย่างเดียวเท่านั้นซึ่งไม้แกะสลักแห่งนี้จะอยู่ตรงบริเวณทางขึ้นของวิหารเป็นซุ้มประตู 

และแม้ปัจจุบันนี้จะมีการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่และมีการสร้างพระวิหารขึ้นมาใหม่แต่ก็จะเป็นการผสมผสานกันระหว่างของใหม่กับของเก่าเพราะว่าเศษซากปรักหักพังของเก่าที่ยังถูกใช้งานได้ก็จะถูกนำมาต่อเติมเอาชิ้นส่วนบางส่วนนำมาประดับตกแต่งเอาไว้

แต่ถ้าเกิดว่าอันไหนที่มันเสียหายมากนักก็จะเป็นการสร้างขึ้นมาใหม่เพราะฉะนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมวัดศรีชุมที่จังหวัดลำปางในช่วงเวลานี้จึงอาจจะเห็นรูปแบบแตกต่างมากกว่าในอดีตกาลอย่างแน่นอนแต่ก็ยังมีความสวยงามอ่อนช้อยไม่แตกต่างกัน 

 

สนับสนุนโดย.    Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

เมืองนาราประเทศญี่ปุ่น

         เมื่อพูดถึงชื่อก็ได้ญี่ปุ่นนั้นเชื่อว่าหลายคนนั้นคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเพราะประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางไปเที่ยวกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียวโดยคนไทยส่วนใหญ่

มักจะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นแทบจะตลอดทุกช่วงฤดูกาลเพราะในประเทศญี่ปุ่นนั้นแต่ละช่วงฤดูกาลก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละฤดูกาลแตกต่างกันออกไป

อย่างเช่นการไปชมดอกซากุระซึ่งจะมีฤดูของดอกซากุระเบ่งบานหรือไปทำกิจกรรมอื่นๆอย่างเช่นการไปแช่น้ำพุร้อนออนเซ็นรวมถึงไปช้อปปิ้งสินค้าของประเทศญี่ปุ่นที่ไม่ว่าจะเป็นขนมหรือของเล่นรวมถึงของแบรนด์เนมต่างๆก็มีความน่ารักและน่าซื้อหาเป็นอย่างมาก

       อย่างไรก็ตามถ้าหากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นหลายคนมักจะเดินทางไปที่อำเภอเมืองใหญ่เช่นเมืองโตเกียวหรือเมืองเกียวโตรวมถึงเมืองนาริตะเป็นต้นแต่อันที่จริงแล้วประเทศญี่ปุ่นนั้นมีมากมายหลายเมืองเลยทีเดียวและแต่ละเมืองนั้นก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีข้อดีแตกต่างกันออกไป

ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปรู้จักกันในวันนี้นั้นอยู่ในเมืองนาราซึ่งเชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกับเมืองนี้กันมากนักดังนั้นเรามาดูรายละเอียดของเมืองนี้กันว่ามีความน่าเที่ยวมาก แค่ไหนเพราะว่าเมืองนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความสวยงามมากที่สุดเมืองหนึ่งในทวีปเอเชียเลยทีเดียว 

        เมืองเก่าแก่อายุกว่า 1300ปีในภูมิภาคคันไซของประเทศญี่ปุ่นได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมในอดีตเมืองนาราเคยเป็นนครหลวงของญี่ปุ่นและเป็นเมืองสำคัญทางพระพุทธศาสนาจึงมีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และทรงคุณค่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันแสนจะคลาสสิคและความรื่นรมย์แห่งธรรมชาติ

         ด้วยความที่เมืองนาราเคยเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนาในญี่ปุ่นทำให้ทั้งเมืองมีวัด

และศาลเจ้าที่มีความสำคัญจำนวนไม่น้อยเช่นวัดโทไดจิวัดพุทธเก่าแก่ที่สุดของเมืองสร้างด้วยสถาปัตยกรรมวิหารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในวัดนอกจากจะมีพระพุทธรูปหล่อสำริดที่เป็นพระประธานแล้วยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปะทางพระพุทธศาสนาในญี่ปุ่นอีกด้วย

      ศาลเจ้า Tanzan นิกายชินโตที่ตั้งอยู่กลางเชิงเขานักท่องเที่ยวมากเดินขึ้นบันไดขึ้นไปชมเจดีย์ขนาดใหญ่สูง 13 ชั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางแมกไม้  นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้า kasuga ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกสร้างขึ้นเมื่อครั้งสถาปนาเมืองนาราเป็นนครหลวงของญี่ปุ่นและสวนสาธารณะนาราที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกประเทศ

มีเจ้ากวางน้อยนับร้อยๆตัวที่รอกินขนมเซมเบ้จากนักท่องเที่ยวทำให้เมืองนาราเป็นเมืองที่สงบเสงี่ยมร่มเงาของพระพุทธศาสนามีกลิ่นอายความเก่าแก่และน่ารักดุจสาวญี่ปุ่นโบราณที่ยิ้มอย่างเอียงอาย

 

สนับสนุนโดย.  ufabet เว็บไหนดี

Lake Louise ประเทศแคนาดา

     สำหรับการแนะนำการท่องเที่ยวในครั้งนี้เรายังคงแนะนำการเที่ยวที่ประเทศแคนาดาเพราะที่นี่บอกเลยว่าหากนักท่องเที่ยวคนไหนที่ชื่นชอบบรรยากาศที่เงียบสงบความเป็นธรรมชาติของภูเขาต้นไม้ประเทศแคนาดานั้นตอบต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียวซึ่งที่นี่จะห่างไกลจากคำว่าแสงสีเสียงเป็นอย่างมาก

และสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาไปรู้จักอีกแห่งหนึ่งของประเทศแคนาดาและได้รับความรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ยังได้รับสมญานามว่าเป็นความสวยงามติดอันดับต้นๆของโลกนั้นก็คือทะเลสาบLake Louise ซึ่งที่นี่ถูกระบุว่าเป็นทะเลสาบที่สวยมากมากในโลกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

          ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีโดยทะเลสาบแห่งนี้จะอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ซึ่งหากใครจะเดินทางมาเที่ยวเยี่ยมชมความสวยงามที่ทะเลสาบแห่งนี้จะต้องขับรถมาที่รัฐแอลเบอร์ตา  

ความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้นั้น เรียกได้ว่าไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลยเพราะถ้าไม่เห็นของจริงคุณจะนึกว่าคุณกำลังอยู่ในฉากในเทพนิยายของภาพยนตร์เรื่องใดเรื่องหนึ่งในวอลดิสนีย์เลยทีเดียวเพราะเมื่อคุณมองเข้าไปที่ทะเลสาบแห่งนี้คุณจะเห็นความใสของน้ำในทะเลสาบที่เรียกได้ว่าใสมากมากจนแทบจะมองเห็นข้างใต้ทะเลสาบและสีน้ำนั้นก็เป็นสีเขียวมรกต

        โดยในขณะที่บริเวณพื้นที่ที่ล้อมรอบทะเลสาบนั้นจะเต็มไปด้วยภูเขาถ้าเรามาในช่วงฤดูร้อนคุณจะมองเห็นภูเขาและต้นไม้ล้อมรอบทะเลสาบแต่ได้เมื่อใดก็ตามที่คุณมาเที่ยวทะเลสาบแห่งนี้ในช่วงฤดูหนาวหิมะปกคลุมทะเลสาบแห่งนี้ให้กลายเป็นสีขาวทั้งหมดแม้แต่ยอดเขาเองก็จะเป็นสีขาวเป็นดินแดนในฝันที่ใครๆก็อยากมาเที่ยวกันเป็นอย่างไร

และถ้าหากนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่ทะเลสาบLake Louise ในช่วงฤดูหนาวพืชสามารถทำกิจกรรมอย่างหลากหลายเช่นคุณอาจจะเป็นซึ่งที่นี่บอกได้แต่ใครที่ต้องการเล่นไอซ์สเก็ตก็สามารถเดินทางมาที่ทะเลสาบแห่งนี้ได้เช่นเดียวกันเพราะในช่วงฤดูหนาวนั้นอากาศอุณหภูมิจะติดลบซึ่งสูงสุดนั้นเคยติดลบถึง 50 องศาเซลเซียสดังนั้นที่นี่น้ำในทะเลตรงกลาง  

        อย่างไรก็ตามหากนักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะสัมผัสกับบรรยากาศ นานนานแล้วก็ที่นี่จะมีที่พักอยู่ใกล้ใกล้กับทะเลสาป Lake Louise นักท่องเที่ยวสามารถสำรองที่พักก่อนเดินทางมาเที่ยวได้เพราะที่นี่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากดังนั้นถ้ายิ่งในช่วงฤดูหนาวอาจจะที่พักจัดเต็มได้ง่ายดังนั้นเพื่อไม่ให้พลาดที่จะมีโอกาสได้พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางความสวยงามของทะเลสาบLake Louise ควรมีการโทรสำรองที่พักล่วงหน้า

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  สล็อต ufabet เว็บตรง