Ponte vecchio  เมืองฟอเร้น  ประเทศ อิตาลี

     Ponte vecchio  เมืองฟอเร้น  สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสะพานที่ขึ้นชื่อว่าสวยติดอันดับโลกนั้น นอกจากจะเป็นสะพานทาวร์เวอร์บริดจ์  ของกรุงลอนดอนแล้ว ยังมีสะพาน  Ponte vecchio อีกด้วย ซึ่งสะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์อิตาลี    โดยความหมายของคำว่า Ponte vecchio   แปลตรงตัวเลยก็คือสะพานเก่าสร้างมาตั้งแต่ปี 996 นั้นเอง

ซึ่งจุดประสงค์แรกก็คือไว้เป็นด่านป้องกันเมืองจากการถูกรุกรานในป้อมปราการและหอสังเกตการณ์บนสะพานและหลังจากปี 1345 เป็นต้นมาก็ได้เปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งตึกและหลังคาที่คลุมยาวไป

          ตลอดทั้งสะพานมีการตั้งร้านค้าซึ่งในยุคแรกนั้นก็คือร้านขายเนื้อและก็มีปัญหามาจากกลิ่นของซากเนื้อและการโยนของเสียลงไปในแม่น้ำ ให้ตอบมาทางเมืองฟลอเรนซ์จัดวางเชียงใหม่โดยไม่ให้มีร้านขายของสดและแทนที่ด้วยร้านขายจิวเวอรี่เครื่องทองซึ่งกลางสะพานก็ยังมีรูปปั้นของ seranee ช่างทองที่ดังที่สุดของเมืองอยู่ด้วยจนหลังยุคศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมาก็สวยงามเหมือนอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน

     ความเก๋ไก๋อีกอย่างของสะพานนี้ก็คือด้านบนมีทางเดินลับที่ประดับตกแต่งด้วยภาพเขียนมีค่านับพันภาพตลอดเส้นทางจากฟากหนึ่งไปยังอีกฟากหนึ่ง ที่ชื่อว่า Cosimo I de’ Medici   ดูแลเมืองฟลอเรนซ์สั่งให้ทำขึ้นในปี 2565 เพื่อให้เขาเดินจากที่พักข้ามสะพานไปยังที่ทำงาน โดยไม่ต้องปะปนกับคนอื่น

        ปัจจุบันทางเดินนี้ถูกปิดรักษาไว้อย่างดีรวมถึงรูปภาพต่างๆก็วางอยู่ในตำแหน่งเดิมเหมือนกับเมื่อหลายร้อยปีที่แล้วซึ่งทางลับนี้เปิดให้เข้าชมเฉพาะเทศกาลสำคัญเท่านั้นความสวยงามของสะพานแห่งนี้ทำให้กลายเป็นสะพานเดียวในเมืองที่ไม่โดนระเบิดทิ้งในสงครามโลกครั้งที่ 2  เนื่องจากฮิตเลอร์เคยมาเยือนและประทับใจวิวของสะพานแห่งนี้

          สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่สะพาน   Ponte vecchio  บอกได้เลยว่าคุ้มมากๆเพราะที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่สะพานที่มีความสวยงามเพียงอย่างเดียวหรือเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำอาร์โนได้อย่างเดียวเพียงเท่านั้นแต่ที่นี่ยังกลายเป็นแหล่งสำคัญในเรื่องของการค้าขายของเมืองฟลอเรนซ์อีกด้วยซึ่งจะเห็นได้ว่าบนสะพานบริเวณด้านริมคลองสะพานนั้นจะมีร้านค้า นำสินค้ามาวางขายเต็มไปหมด

          ซึ่งสินค้าที่นำมาขายนั้น มีตั้งแต่สินค้าโบราณ และสินค้าปัจจุบัน รวมถึงสินค้าทำมือ และพวกขนมนมเนย  นอกจากนี้หากใครที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่กับคู่รัก คุณยังสามารถทำกิจกรรมยอดนิยม สำหรับคู่รักด้วยการ ล็อกกุญแจไว้ที่สะพาน ส่วนลูกกุญแจก็จะโยนลงแม่น้ำ ซึ่งกิจกรรมนี้นักท่องเทียวนิยมกันมาก เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้รักกันตลอดไป 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝาก-ถอน เอง

ข้อควร รู้หากจะไปเที่ยว เกาะหมาก จังหวัดตราด 

    เกาะหมาก จังหวัดตราด มีเกาะมากมายเต็มไปหมดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเพลินซึ่งหนึ่งในเกาะที่น่าสนใจก็คือเกาะหมากนั่นเอง โดยวันนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลที่ควรรู้หากนักท่องเที่ยวต้องการที่จะเดินทางมาเที่ยวที่เกาะหมากว่าเกาะหมากนั้นมีข้อมูลและมีประวัติอย่างไรบ้างและมีจุดไหนที่น่าสนใจสำหรับการมาเที่ยวที่เกาะแห่งนี้บ้าง 

       อย่างที่เรารู้กันดีว่าเกาะหมากนั้นตั้งอยู่ตรงบริเวณอ่าวไทยซึ่งเกาะหมากนั้นเป็นเกาะที่มีใหญ่พื้นที่โดยรวมแล้วอยู่ที่ประมาณเก้าพันไร่   หากมีการจัดสถิติขนาดพื้นที่ของเกาะที่มีความใหญ่เกาะหมากนับเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเลยทีเดียว   ด้วยกับแห่งนี้จะอยู่ระหว่างเกาะกูดกับเกาะช้างซึ่งถ้าหากนั่งเรือออกไปยังเกาะหมากจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางเนื่องจากว่าเกาะแห่งนี้ห่างจากชายฝั่งอยู่ที่ประมาณ 38 กิโลเมตร  

      อย่างไรก็ตามเกาะหมากถึงแม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแต่ก็ยังให้บรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะกับการมาพักผ่อนโดยที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของทางธรรมชาติเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้บนเกาะหรือแม้แต่ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไม่ว่าจะเป็นปะการังและสัตว์ใต้ทะเลนั่นเอง 

       สำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางมาเที่ยวที่เกาะหมากต้องบอกเลยว่าที่นี่จะไม่มีสิ่งดึงดูดใจมากนักเช่นพวกสถานบันเทิงต่างๆจะไม่มีเพราะที่นี่เน้นการท่องเที่ยวแบบเงียบสงบและต้องการคงสภาพความเป็นธรรมชาติเอาไว้ 100% ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเที่ยวบนเกาะหมากได้ด้วยการนั่งรับลมเย็นๆบนชายหาดหรืออาจจะล่องเรือพักผ่อนบริเวณรอบเกาะหมาก

นอกจากนี้ยังไปเยี่ยมชมสวนผลไม้หรือสวนยางของชาวบ้านได้และถ้าหากใครอยากจะจำน้ำดูแนวปะการังหรือดูสัตว์น้ำใต้ท้องทะเลก็ได้เช่นเดียวกันแต่ถ้าหากต้องการสถานที่ท่องเที่ยวแบบหรูหราเช่นผับจะไม่มีให้บริการบนเกาะหมากเพราะที่นี่จะเน้นการเที่ยวแบบเงียบสงบนั้นเอง 

        สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากจะมาพักผ่อนที่เกาะหมากแนะนำว่าควรจะเดินทางมาเที่ยวช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนเมษายนเพราะช่วงนี้เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าขึ้นลมในท้องทะเลไม่รุนแรงมากนักและแนะนำว่าในช่วงหน้าฝนไม่ควรจะมาเที่ยวที่เกาะหมาก

เพราะเกาะหมากอยู่ห่างจากชายฝั่งต้องใช้ระยะเวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่วโมงซึ่งถ้าหากมาเจอคลื่นลมแรงในช่วงจังหวะที่มีการเดินทางก็อาจจะเกิดอันตรายได้และที่สำคัญกิจกรรมก็อาจจะทำได้น้อยเพราะถ้าหากมีฝนตกหรือมีคลื่นลมแรงก็ไม่สามารถลงไปดำน้ำดูแนวปะการังได้นั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.  gclub สมัครสมาชิก

หอสังเกตการณ์  Torre del Oro  ประเทศสเปน 

    ในเมืองเซวิญ่า ของประเทศสเปน มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงยุคกลางของศตวรรษที่ 13 ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นแต่เดิมเคยเป็นหอสังเกตการณ์มาก่อนโดยมีทหารในเซวิลล์  เป็นผู้ดูแลควบคุมกำกับหอสังเกตการณ์นี้ซึ่งที่นี่ถูกเรียกว่า หอสังเกตการณ์  Torre del Oro

ดังนั้นที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนานและน่าสนใจเป็นอย่างมากโดยที่นี่มีลักษณะการออกแบบเป็นหอคอย 8 เหลี่ยมปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ไม่ได้กลายเป็นหอสังเกตการณ์แล้วแต่ถูกเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์แทนซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศสเปนสามารถแวะมาเที่ยวชมหอสังเกตการณ์ Torre del Oro แห่งนี้ได้

        สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั้นมีความสูงถึง 36 เมตรด้วยกันโดยจุดที่มีการก่อสร้างเอาไว้นั้นจะอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Guasalquivir  สำหรับตัวหอสังเกตการณ์นั้นมีการสร้างเอาไว้ทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกันซึ่งแต่ละส่วนนั้นจะสร้างกันคนละปีอย่างเช่นส่วนแรกนั้นจะถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ 1220

    ซึ่งส่วนแรกนั้นถือว่าเป็นส่วนฐานที่สำคัญโดยมีพื้นที่ขนาดใหญ่ออกแบบให้มีรูปทรงเป็นแบบเหลี่ยมทั้งหมด 12 เหลี่ยมด้วยกันในขณะที่ส่วนที่สองนั้นถูกสร้างเพิ่มเติมภายหลังโดยเชื่อว่าถูกสร้างขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 14 ซึ่งส่วนที่ 2 นี้จะมีขนาดเล็กกว่าส่วนแรกและส่วนที่ 3 นั้นมีการต่อเติมขึ้นมาอีกภายหลังเช่นเดียวกัน

โดยส่วนที่ 3 นั้นคาดการณ์ว่าเป็นการต่อเติมเพราะต้องการซ่อมบำรุงตัวหอสังเกตการณ์เนื่องจากว่าในช่วงปีค. ศ. 1755 มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นทำให้หอสังเกตการณ์ได้รับความเสียหายหลังจากนั้นอีกหลายปีต่อมาสภาพของหอสังเกตการณ์ก็ทรุดโทรมลงจึงได้มีการสร้างเพิ่มและซ่อมบำรุงต่อเติมขึ้นทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศสเปนและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศสเปน

    ในแต่ละปีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเที่ยวที่หอสังเกตการณ์แห่งนี้เพราะต้องการชมประวัติศาสตร์ความเป็นมารวมถึงกลางแข็งแกร่งทางการทหารในอดีตนอกจากนี้ที่นี่ยังเคยเป็นที่คุมขังขุนนางอีกด้วยอย่างไรก็ตามปัจจุบันมีการพัฒนาที่นี่กลายเป็นมาเป็นพิพิธภัณฑ์ดังนั้นเมื่อเข้ามาเยี่ยมชมภายในจึงจะได้เห็นภาพบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือและนอกจากนี้ยังทรงเครื่องโบราณต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรือโบราณจำลองหรือแม้แต่ตะเกียงโบราณ

      ดังนั้นหากใครหรือนักท่องเที่ยวคนไหนที่ชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มีความเก่าแก่และต้องการเห็นความโบราณของสิ่งของต่างๆในอดีตสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมที่หอสังเกตการณ์ Torre del Oro แห่งนี้ได้ เพราะนอกจากที่นี่จะให้ความรู้แล้ว ยังมีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะวิวแม่น้ำ

 

สนับสนุนโดย.  gclub สล็อตฟรี

วัดเลขธรรมกิตติ์  จังหวัดนครนายก

          วัดเลขธรรมกิตติ์  ที่อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก มีวัดแห่งหนึ่งซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มีอายุเกือบ 200 ปีแล้วด้วยวัดแห่งนี้มีเอกลักษณ์พิเศษตรงที่ว่าบริเวณตรงซุ้มประตูทางเข้าของวัดนั้นจะมีกำแพงซึ่งเป็นทราบราคาพังเหลือไว้บางส่วนโดยเหลือตรงส่วนที่เป็นประตูทางเข้า

ซึ่งตรงนี้จะมีรากของต้นโพธิ์ต้นใหญ่พันเกลียววัดกำแพงเอาไว้เป็นการป้องกันไม่ให้กำแพงล้มซึ่งตรงจุดนี้เองที่เป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมความงดงามของสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยวัดแห่งนี้มีชื่อเรียกว่าวัดเลขธรรมกิตติ์ 

         ชาวบ้านบอกว่าแต่เดิมวัดแห่งนี้ไม่ใช่ชื่อวัดเลขธรรมกิตติ์เพิ่งมามีการเปลี่ยนเป็นชื่อ วัดเลขธรรมกิตติ์  เมื่อปีพศ 2490 โดยพระครูศรัทธาภินันท์เป็นผู้ดำเนินการเปลี่ยนเพราะแต่เดิมนั้นวัดแห่งนี้มีชื่อเรียกว่าวัดบางอ้อนอก  แต่ที่พระครูศรัทธาภินันท์มีการเปลี่ยนมาเป็นวัดเลขธรรมกิตติ์นั่นก็เพราะว่าวัดแห่งนี้นั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ท่าน

เคยเสด็จมาพร้อมกับพระโอรสของพระองค์โดยทั้งสองพระองค์นั้นได้มีการเสด็จลงเรือและได้มีการขึ้นมาแวะพักเพื่อเสวยพระกระยาหารและพักผ่อนที่วัดแห่งนี้ดังนั้นท่านพระครูศรัทธาภินันท์จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อวัดแห่งนี้ใหม่เพื่อเป็นเกียรติแก่ตัววัดที่ครั้งหนึ่งเคยได้ต้อนรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระโอรสนั่นเอง

       สำหรับชื่อวัดเลขธรรมกิตติ์นั้นมีความหมายซึ่งแปลตรงตัวว่าวัดที่มีเกียรติดังนั้นจึงเหมาะกับวัดที่ได้มีโอกาสต้อนรับรัชกาลที่ 5 กับพระโอรสของพระองค์โดยวัดแห่งนี้นอกจากจะเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาในช่วงปลายของกรุงศรีอยุธยาแล้วภายในพื้นที่บริเวณวัดยังมีความสวยงามและเงียบสงบร่มเย็นอีกด้วย

  นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมความสวยงามและความเก่าแก่ของวัดเลขธรรมกิจแห่งนี้นั้นมักจะมาถ่ายรูปตรงบริเวณซุ้มประตูโบราณแห่งนี้เพราะมีความสวยงามและดูอัศจรรย์ตรงที่มีรากของต้นไทรพันเกี่ยวเอาไว้และยังมีบานประตู 2 บานที่เปิดเอาไว้เป็นมุมสำหรับถ่ายรูปสวยๆเก๋ๆอีกด้วย

           นอกจากนี้ภายในวัดยังมีศาลาขนาดเล็กรวมถึงโบสถ์ซึ่งได้มีการนำพระพุทธรูปมาประดิษฐ์ฐานเอาไว้เพื่อให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพรอะไรก็ตามสำหรับวัดเลขธรรมกิตติ์นั้นไม่ใช่วัดขนาดใหญ่มากนักดังนั้นจึงใช้ระยะเวลาไม่นานในการที่จะเดินถ่ายรูปตามมุมต่างๆภายในวัดและกราบไหว้พระพุทธรูปเพื่อขอพรดังนั้นเราสามารถแวะเที่ยวที่วัดเลขธรรมกิตติ์แห่งนี้และสามารถไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับวัดนี้ได้ 

       หากนักท่องเที่ยวชอบธรรมชาติและสถาปัตยกรรมจากธรรมชาติ แนะนำมาเที่ยวที่วัดแห่งนี้กันค่ะ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    UFABET เว็บหลัก

สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณรู้จักแล้วคงไม่อยากไปอย่างแน่นอน

สถานที่ท่องเที่ยวบางสถานที่ก็น่ากลัวจนเกินไปหรืออันตรายจนเกินไปซึ่งเราเชื่อว่าคุณสามารถที่จะเดินทางไปที่ไหนบนโลกแห่งนี้ก็ได้ถ้าหากคุณมีอุปกรณ์  สถานที่ท่องเที่ยวไม่อยากไปอย่างแน่นอน และเงินเพียงพอในการเดินทางแต่ว่าบางสถานที่มันก็ไม่ควรไปหรือเปล่าเพราะว่ามันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ตัวคุณเอง 

ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนที่กล้าผจญภัยเผชิญอะไรต่างๆนานาแต่ว่าในบางสถานที่บางสิ่งก็ไม่ควรไปเพราะว่ามันเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายกับคุณมากซึ่งถ้าหากเราไปเที่ยวและพบกับความสนุกสนานก็ควรที่จะไป แต่ว่ารักสถานที่ที่เดินทางไปแล้วมันเป็นอันตรายจนเกินไปเราก็ไม่ควรจริงไหมล่ะ 

 

ดังนั้นในวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าสถานที่ไหนบ้างที่เราไม่ควรจะไปแบบเด็ดขาดซึ่งถ้าหากคุณไปแล้วอาจจะเป็นการก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าความสนุกสนานหรือการผจญภัยไปอีกโดยสถานที่ต่างๆเหล่านั้นมีดังต่อไปนี้

เชอร์โนบิล ประเทศยูเครน 

เชื่อกันว่าภัยพิบัติเชอร์โนบิลที่เกิดขึ้นจากการที่วิศวกรได้ทำการทดสอบเกี่ยวกับการทำงานของระบบที่เป็นหล่อเย็นเห็นได้ว่าการทดสอบทั้งนั้นเกิดความล่าช้าจึงทำให้ก่อเกิดแรงดันน้ำที่มีค่อนข้างสูงโดยได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันซึ่งทำให้ระบบการตัดสินงานอย่างอัตโนมัตินั้นไม่ก่อให้เกิดการทำงาน 

จึงเป็นเหตุส่งผลทำให้ เกิดความร้อนที่สูงมากขึ้น จนทำให้เกิดแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่เป็นหมายเลข 4 ได้ทำการหลอมละลาย และได้เกิดระบบขึ้นในทันที ห้องเช้ามืดในวันที่ 26 เมษายน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นปี 1986 ซึ่งจะเห็นได้ว่าผลจากการที่มันระเบิดนั้น จะก่อให้เกิดเป็นที่เท่าที่มีการปนเปื้อนกับ กัมมันตภาพรังสี ทำให้ควันพวยพุ่งขึ้นสู่อากาศด้านบน อยู่ระยะยาวนานถึง 10 วันได้ 

จึงเป็นการทำให้ขี้เถ้าได้ทำการปกคลุมทางตะวันตกของโซเวียตและยังปกคลุมไปทางยุโรปตะวันออก ยุโรปตะวันตก และยุโรปเหนือหรือพื้นที่มากกว่า 2 แสนตารางกิโลเมตร โดยทำการครอบคลุมพื้นที่ 71% ของประเทศเบลารุส รัสเซีย และยูเครน สาเหตุที่ทำให้เกิดการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสี จึงส่งผลทำให้ทางการของทั้งสามประเทศนี้ ได้ทำการอพยพประชาชนของพวกเขา 

ซึ่งผลที่รวมออกมาได้น่าจะเกิน 330,000 คน โดยทำการไปตั้งถิ่นฐานสถานที่แห่งใหม่ ในขณะที่มีพื้นที่รัศมีที่อยู่ที่ 30 กิโลเมตร โดยอยู่รอบโรงไฟฟ้าของเชอร์โนบิลนั้นได้ทำการถูกประกาศให้เป็นพื้นที่และเขตอันตรายซึ่งสาเหตุที่มีการระเบิดในครั้งนี้ส่งผลทำให้มีผู้ที่เสียชีวิตในทันทีหลังจากที่มีเหตุการณ์ระเบิดทั้งนั้นจำนวน 31 คนซึ่งคนเหล่านั้นเป็นพนักงานหรือคนงานที่อยู่ในโรงงานไฟฟ้าเชอร์โนบิลเองหลังจากนั้นก็ได้มีผู้คนที่ได้ทำการระบุว่า ในอนาคตอาจจะมีผู้ที่เสียชีวิตจาก โรคมะเร็งที่ทำการเกี่ยวข้องกับ กัมมันตภาพรังสีอีกมากกว่า จำนวน 40 คนอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ufabet ฝากเงิน ออโต้

เกาะรอกจังหวัดกระบี่ 

         เกาะรอกจังหวัดกระบี่   ในเขตพื้นที่รอยต่อระหว่างสองจังหวัดอันได้แก่จังหวัดตรังกับจังหวัดกระบี่ท้องทะเลตรงพื้นที่รอยต่อตรงนี้นั้นจะมีเกาะแห่งหนึ่งซึ่งเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากโดยเกาะดังกล่าวนั้นมีชื่อว่าเกาะรอกด้วยเกาะแห่งนี้นั้นนักท่องเที่ยวที่เคยมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่เกาะรอกต่างก็พูดถึงความสวยงามของเกาะแห่งนี้กันมากจนได้มีการตั้งชื่อเกาะแห่งนี้อีกชื่อหนึ่งซึ่งชื่อนี้ถูกเรียกว่าราชินีแห่งอันดามัน

         บนเกาะนั้นจะมีต้นไม้ขนาดใหญ่เต็มไปหมดและมีเนินเขาเตี้ยๆในขณะที่บริเวณชายหาดนั้นจะเป็นหาดสีขาวสะอาดนวลตาเป็นทรายเม็ดละเอียดน้ำทะเลนั้นก็ใสมากจนมองเห็นใต้น้ำได้มองดูแล้วเหมือนมองกระจกใสๆกันเลยทีเดียวและที่เกาะแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านซึ่งทหารนักท่องเที่ยวคนไหนชอบเที่ยวแบบความเป็นส่วนตัวชอบบรรยากาศที่เงียบสงบ

          แนะนำว่าให้แวะมาที่จังหวัดกระบี่แล้วลองแวะมาเที่ยวที่เกาะรอกดู รับรองว่าจะถูกใจกับบรรยากาศและความสวยงามของเกาะแห่งนี้อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามบนเกาะรอกนั้นมีสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถไปชมวิวได้อย่างเช่นที่ตรงบริเวณอ่าวโค้งซึ่งตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก

โดยลักษณะของจุดชมวิวที่เอาโค้กนั้นมีการว่ากันว่ามันมีความโค้งเหมือนกับเกือกม้าเลยทีเดียวในขณะเดียวกันนั้นความละเอียดของทรายก็ทำให้พื้นทรายนั้นเวลาที่เราถอดรองเท้าเหยียบใส่แล้วจะรู้สึกถึงความนุ่มของทรายมากเลยทีเดียว

    อย่างไรก็ตามที่เกาะแห่งนี้ยังมีข่าวอีกเจ้าหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้กับเข่าโค้งนั่นก็คืออ่าวมั่นใจนั่นเองที่นี่นักท่องเที่ยวที่อยากดูปะการังแต่ไม่อยากดำน้ำสามารถเดินทางมาดูปะการังน้ำตื้นได้หรือถ้าหากใครอยากจะดำน้ำดูแนวปะการังน้ำลึกก็จะมีจุดดำน้ำที่ดีๆที่เมื่อดำลงไปแล้วจะเห็นดอกไม้ทะเลและปะการังแหวกว่ายอยู่ในท้องทะเลเต็มไปหมด

   ที่สำคัญที่เกาะแห่งนี้นั้นรอบๆเกาะหากนักท่องเที่ยวโชคดีอาจจะได้เห็นปลานีโม่มาว่ายน้ำอยู่ใกล้กับแนวปะการังก็ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไหนที่เคยไปทางไปเที่ยวที่เกาะแห่งนี้แล้วไม่เคยปฏิเสธได้เลยว่าที่นี่นั้นสวยงามและส่วนใหญ่ที่ใครเคยไปเที่ยวแล้วก็จะหลงรักที่นี่กันทุกคน 

         อย่างไรก็ตามถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะไปเดินทางไปเที่ยวที่เกาะรอกนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงที่จังหวัดกระบี่แล้วนักท่องเที่ยวจะต้องไปยังจุดตรงบริเวณท่าเรือปากเมงหรือไม่ก็ต้องเป็นบริเวณท่าเรือบ้านหาดยาวซึ่งทั้งสองท่าเรือนี้จะมีชาวบ้านเปิดให้เช่าเรือเหมาลำเพื่อพาไปยังเกาะรอกอีกทีนึงซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

พระราชวังเคนซิงตัน แห่งกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ 

        ในอดีตนั้นประเทศอังกฤษมีการปกครองภายใต้การดูแลของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ต่างๆซึ่งปัจจุบันนั้นมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาอยู่ภายใต้ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยทั้งหมดแต่เชื้อพระวงศ์ก็ยังคงได้รับความสำคัญ พระราชวังเคนซิงตัน และได้รับความเคารพจากประชาชนชาวอังกฤษเช่นเดิมอย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าในสมัยก่อนนั้นมีเหล่าบรรดาเชื้อพระวงศ์ต่างๆหรือแม้แต่กระสัตว์ค่อนข้างเยอะมากในราชวงศ์อังกฤษทำให้ที่ประเทศอังกฤษนั้นจึงมีการสร้างพระราชวังเอาไว้อย่างมากมายซึ่งพระราชวังในประเทศอังกฤษมีก็คือบ้านที่กษัตริย์หรือเจ้าชายต่างๆใช้อยู่อาศัยนั้นเอง

       สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศอังกฤษนั้นเราจะเห็นได้ว่าเวลาที่เราเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอังกฤษสถานที่ท่องเที่ยวที่เรามักจะเดินทางไปเที่ยวกันก็คือพระราชวังซึ่งในประเทศอังกฤษนั้นมีพระราชวังเยอะมากและหนึ่งในพระราชวังที่เราจะแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้ก็คือพระราชวังเค็นซิงตันนั่นเอง  ที่นี่แต่เดิมนั้นเป็นเพียงแค่วิลล่าขนาดเล็กธรรมดาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก่อนที่จะมีการปรับปรุงขยายใหญ่ขึ้นจนกลายมาเป็นพระราชวังในที่สุด

        สำหรับพระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ พระราชวังเคนซิงตัน หลายต่อหลายคนด้วยกันไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 3 และพระนางแมรี่ที่ 2 หรือแม้แต่สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียซึ่งในตอนที่พระองค์ยังคงเป็นเด็กเล็กๆนั้นพระองค์เคยประทับอยู่ที่นี่หลังจากเมื่อโตขึ้นพระองค์ถึงย้ายไปประทับที่พระราชวังบัคกิ้งแฮมนอกจากนี้ยังมีเจ้าหญิงไดอาน่ารวมถึงเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตก็เคยมาประทับอยู่ที่พระราชวังเคนซิงตันเช่นเดียวกัน 

      อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีพระราชวังเค็นซิงตันยังคงกลายเป็นที่ประทับของพระราชวงศ์อังกฤษอยู่เช่นเดิมซึ่งปราสาทองค์ปัจจุบันที่ได้พักอยู่ที่พระราชวังแห่งนี้ก็คือเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าหญิงเคทรวมถึงพระโอรสและพระธิดาของพระองค์ของทั้งสองพระองค์นั้นเอง 

        สำหรับพระราชวังเคนซิงตันนั้นเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมความงดงามภายในได้โดยจะมีการเปิดเฉพาะบางพื้นที่หรือบางส่วนเท่านั้นซึ่งจะเห็นได้ว่าด้านในพระราชวังนั้นมีความโอ่อ่าหรูหราและที่สำคัญงดงามเป็นอย่างมากเพราะมีการตกแต่งเอาไว้ ด้วยเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นที่ไม่ธรรมดานอกจากนี้ยังมีการนำประติมากรรมต่างๆที่มีความงดงามจากทั่วโลกมาประดับตกแต่งทำให้พระราชวังแห่งนี้งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลยทีเดียว

 อย่างไรก็ตามหากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวที่พระราชวังแห่งนี้จะมีโซนที่มีการนำเสื้อผ้าเครื่องประดับของเจ้าหญิงไดอาน่ามาจัดแสดงเอาไว้ภายในพระราชวังแห่งนี้ด้วย  นอกจากนี้บริเวณด้านนอกของพระราชวังนั้นก็มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรือบ่อน้ำรวมถึงหินทางเดินและน้ำพุมีการจัดสรรเอาไว้อย่างลงตัว     

 

สนับสนุนโดย.  สมัคร Gclub

ashikaga Flower Park ประเทศญี่ปุ่น 

          ถ้าหากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นและเคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่สวน Kawasaki Fuji Garden ชื่อว่าจะต้องรู้สึกชื่นชอบกับสวนดอกไม้แห่งนี้อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นยังมีสวนดอกไม้ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งซึ่งในครั้งนี้จะพาไปรู้จักสวนดอกไม้ที่มีความงดงามไม่แตกต่างจากส่วนที่ Kawasaki Fuji Garden อย่างแน่นอนโดยสวนแห่งนี้นั้นมีชื่อว่าสวนอาชิคางะ  ซึ่งสวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดโทชิกิโดยอยู่ในเมืองอาชิคางะนั้นเอง  ชาวเมืองจึงเรียกส่วนนี้ว่า ashikaga Flower Park

        สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่เดินทางไปเที่ยวที่เมืองโตเกียวสามารถแวะมาเที่ยวชมความงดงามของดอกไม้ที่ ashikaga Flower Park แห่งนี้ได้เพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียงแค่ประมาณ 80 กิโลเมตรเท่านั้นการเดินทางไปมานั้นค่อนข้างสะดวกสบายเนื่องจากที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีทั้งรถสาธารณะและรถไฟฟ้าความเร็วสูงทำให้ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ไม่นานก็สามารถเดินทางมาที่ ashikaga Flower Parkแห่งนี้เพื่อทำการถ่ายรูปสวยๆกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามได้แล้ว

          สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ในแต่ละวันนั้นจะต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากมายมหาศาลเนื่องจากว่าการเดินทางที่ไม่ไกลจากตัวเมืองโตเกียวมากนักและการเดินทางที่สะดวกสบายสามารถเดินทางไปกลับเพียงวันเดียวได้ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเพราะเมื่อช้อปปิ้งสินค้าหรือเดินทางเที่ยวในเมืองโตเกียวจนเบื่อแล้วก็สามารถมาถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์ดอกไม้สวยๆที่สวนอาชิคางะแห่งนี้ได้นั่นเอง

     สำหรับสวนอาชิคางะแห่งนี้นั้นเป็นส่วนที่มีขนาดพื้นที่ขนาดใหญ่เช่นเดียวกันโดยที่นี่ ได้มีการนำดอกวิธีเรียงมาทำการปลูกซึ่งที่นี่นั้นจะมีดอกวิสทีเรียมากกว่า 350 ต้นปลูกภายในสวนขนาดใหญ่และต้นไม้แต่ละต้นนั้นก็มีอายุเก่าแก่เกินกว่า 150 ปีเรียกได้ว่าเดินทางมาเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน

          นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีการทำอุโมงค์ดอกวิสทีเรียด้วยเช่นเดียวกันโดยอุโมงค์ของดอกวิสทีเรียแห่งนี้นั้นจะนำดอกวิทยาซึ่งมีสายพันธุ์สีขาวมาทำการปลูกไว้ประดับประดาอุโมงค์ให้มีความสวยงาม  นักท่องเที่ยวสามารถเดินเพลินภายใต้อุโมงค์ดอกวิสทีเรียสีขาวแห่งนี้ได้ด้วยระยะทางความยาวถึง 80 เมตรด้วยกันไม่ใช่แค่อุโมงของดอกวิสทีเรียสีขาวเท่านั้นแต่ยังมีอุโมงค์อื่นๆอีกมากมายที่เจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมไว้รองรับนักท่องเที่ยว

         ซึ่งแต่ละอุโมงค์นั้นจะมีสีสันแตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นสีเหลืองหรือแม้แต่สีม่วงเพราะดอกวิสทีเรียนั้นมีมากมายหลายสายพันธุ์นั่นเอง  หากนักท่องเที่ยวคนไหนสนใจเดินทางมาเยี่ยมชมความสวยงามของดอกวิสทีเรียที่ ashikaga Flower Park แห่งนี้แนะนำว่าช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาเที่ยวมากที่สุดนั้นควรจะมาช่วงประมาณปลายเดือนเมษายนไปจนถึงช่วงเดือนพฤษภาคมซึ่งช่วงนี้นั้นจะเป็นช่วงที่ดอกวิสทีเรียกำลังเบ่งบานสวยงามมากเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.  ทางเข้า gclub มือถือ

สุเหร่าเซนต์โซเฟีย  หรือวิหารเซนต์โซเฟียประเทศตุรกี

         เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศตุรกีหรือเคยศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประเทศตุรกีคงได้ยินชื่อวิหารเซนต์โซเฟียกันมาบ้างพระวิหารนี้เป็นวิหารที่เก่าแก่  สุเหร่าเซนต์โซเฟีย และมีความศักดิ์สิทธิ์และที่สำคัญเป็นวิหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องของความสวยงามเป็นอย่างมาก  สำหรับวิหารแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นมาอยู่ในเมืองกรุงอิสตันบูล 

      เป็นวิหารที่ถูกสร้างขึ้นมาจากน้ำมือมนุษย์และมีการก่อสร้างเอาไว้อย่างสวยงามยิ่งใหญ่อลังการจนถึงขนาดว่าวิหารแห่งนี้ถูกจัดอันดับให้เป็นวิหารที่มีความสวยงามติด 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนอกจากนี้การจัดอันดับสิ่งมหัศจรรย์ในยุคกลางก็ยังเป็นสถานที่ที่มีความสวยงามเป็นอันดับ 8 ของโลกอีกด้วย 

      สุเหร่าเซนต์โซเฟีย แห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นมาในสมัยของจักรวรรดิไบแซนไทน์โดยเป็นยุคการปกครองของจักรพรรดิจัสติเนียนนั่นเองว่ากันว่าวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงปี 532 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีกว่าแล้วเสร็จโดยวิหารแห่งนี้นั้นเป็นมหาวิหารที่มีความงดงามซึ่งหาวิหารฯที่มีความงดงามเทียบเท่านั้นได้ยากมากเลยทีเดียว

       ปัจจุบันเนื่องจากว่าวิหารแห่งนี้มีความเก่าแก่มากแล้วจึงได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาแล้วหลายครั้งนอกจากนี้ยังมีการต่อเติมให้ดูยิ่งใหญ่อลังการและงดงามมากขึ้นไปอีกมีการก่อสร้างโบสถ์สวยๆมากมายเต็มไปหมดในช่วงประมาณปี  563 ช่วงดังกล่าวนั้นเป็นช่วงที่มีการเกิดแผ่นดินไหวและส่งผลทำให้ยอดโดมของวิหารแห่งนี้หักโค่นลงมาจึงมีผลทำให้ต้องมีการบูรณะซ่อมแซม

    ยอดโดมของวิหารเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้นไม่ได้ทำให้เพียงแค่ยอดโดมหักพังทลายลงมาเท่านั้นแต่ทำให้วิหารเซนต์โซเฟียนั้นมีรอยร้าวเกิดขึ้นด้วยซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงบูรณะซ่อมแซมในส่วนที่มีการแตกร้าวเพราะเกรงว่าวิหารเก่าแก่ที่มีความสวยงามนี้จะพังลงมานั่นเอง

        อย่างไรก็ตามสำหรับวิหารแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ใกล้ๆกันกับสุเหร่าสีน้ำเงินซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจโดยถ้าหากว่านักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่วิหารเซนต์โซเฟียถ่ายรูปสวยๆเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะเดินทางข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อไปเยี่ยมชมความสวยงามของสุเหร่าสีน้ำเงินซึ่งมีลักษณะใหญ่โตโอ่โถและสวยงามไม่แตกต่างกับวิหารเซนต์โซเฟียเลย

 สำหรับวิหารเซนต์โซเฟียนั้นเป็นวิหารต้นแบบที่ภายหลังนั้นได้มีการก่อสร้างสุเหร่าแล้วเรียนแบบความสวยงามของวิหารแห่งนี้กันอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว สำหรับวิหารแห่งนี้ว่ากันว่าในครั้งแรกที่ถูกสร้างขึ้นมานั้นเป็นการสร้างสำหรับให้เป็นโบสถ์ของคนที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นที่ประทับของรูปปั้นขององค์พระเยซู 

 

สนับสนุนโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ

Merlion ที่ประเทศสิงคโปร์ 

          Merlion ที่ประเทศสิงคโปร์  คือประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความนิยมเดินทางไปเที่ยวกันเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าประเทศสิงคโปร์นั้นอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยมากนักดังนั้นการนั่งเครื่องบินไปเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์จึงใช้ระยะเวลาเพียงแค่ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆก็สามารถไปเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์ได้แล้วและที่สำคัญบริษัททัวร์ต่างๆก็มีการจัดทำโปรแกรมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยกับประเทศสิงคโปร์

เอาไว้มากมายหลายโปรแกรมซึ่งการเดินทางไปเที่ยวกับบริษัททัวร์นั้นก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ค่อนข้างสูงเท่าไหร่นักซึ่งคนที่มีฐานะปานกลางก็สามารถเดินทางที่ไปเที่ยวต่างประเทศได้ดังนั้นประเทศที่ได้รับความนิยมในการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีฐานะปานกลางหนึ่งในนั้นก็คือประเทศสิงคโปร์นั้นเอง.

       อย่างไรก็ตามสำหรับการเดินทางไปเที่ยว Merlion ที่ประเทศสิงคโปร์  นั้นในประเทศสิงคโปร์ถึงแม้ว่าประเทศสิงคโปร์จะเป็นเกาะเล็กๆมีอานาเขตพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มากนะคะหากเปรียบเทียบกับประเทศไทยแล้วแต่เชื่อหรือไม่ว่าในประเทศสิงคโปร์นั้นมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายเต็มไปหมดที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากใครเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์แล้วไม่ได้เช็คอินที่ Merlion ซึ่งถือว่าการท่องเที่ยวในครั้งนั้นคุณยังเดินทางไปไม่ถึงสิงคโปร์อย่างแน่นอน

       ถ้าหากผู้  Merlion เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินมากนักแต่ถ้าหากพูดว่าเป็นรูปปั้นสิงโตพ่นน้ำเชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะมันคือสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของประเทศสิงคโปร์เลยก็ว่าได้ไม่ว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยหรือชาวต่างชาติประเทศอื่นเมื่อเดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์จะต้องมีการมาเช็คอินที่ตรงบริเวณรูปปั้นสิงโตพ่นน้ำแห่งนี้

       สำหรับรูปปั้น Merlion ตั้งอยู่ตรงบริเวณทะเลอ่าวมารีนาซึ่งที่นี่คือจุดชมวิวที่น่าสนใจและบิลที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศสิงคโปร์เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถที่จะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเพื่อยืนยันว่าครั้งหนึ่งนั้นคุณเคยเดินทางมาเที่ยวที่สิงคโปร์นั่นเองนอกจากนี้ต้องบริเวณจุดนี้นั้นยังมีร้านค้าร้านอาหารต่างๆมากมายที่ให้นักท่องเที่ยวนั้นได้ช้อปปิ้งเพลินทั้งของกินของใช้

         ที่สำคัญถ้าหากมาบริเวณนี้ในช่วงเวลากลางคืนควรจะสามารถชมการแสดงแสงสีเสียงตรีซึ่งเป็นการแสดงแบบยิ่งใหญ่อลังการอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำซึ่งการแสดงนี้เรียกกันว่าวันเดอร์ฟูลไลฟ์โชว์  โดยการแสดงนี้ก็นับว่าเป็นไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของการเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์เลยทีเดียว     

สำหรับรูปปั้น  Merlion   จะมีลักษณะเป็นหัวสิงโตส่วนลำตัวนั้นจะเป็นรูปปลา  โดยรูปปั้นนี้มีการสร้างมาตั้งแต่ในช่วงปีค.ศ 1972 ซึ่งในช่วงที่ปั้นเสร็จครั้งแรกนั้นถูกนำไปวางไว้ตรงบริเวณริมแม่น้ำสิงคโปร์แต่หลังจากนั้นก็มีการย้ายมาไว้ตรงริมอ่าวมารีน่าในช่วงประมาณปี 2002 นั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  ufabet ฝากถอน ไม่มีขั้นต่ำ ออโต้