แบกกระเป๋าตามล่าหาแสงเหนือ

แบกกระเป๋าตามล่าหาแสงเหนือ แสงออโรร่า หรือที่หลายคนรู้จักและเรียกกันว่า แสงเหนือ  แสงใต้ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติสุด Unseen ที่บอกเลยว่าเน้นย้ำ ควรมาสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่ต้องไปชมและสัมผัสให้ได้นะค่ะ ซึ่งแสงออร่านี้จะพบเห็นได้ในแถบขั้วโลกเหนือ ในช่วงฤดูหนาว เท่านั้น  

ความสวยงามจากแสงที่หลายคนตามล่าหาเพื่อที่จะได้เห็นกับตาสักครั้ง ที่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกทั้งยังสร้างความตื่นเต้นอีกด้วย  ความงดงามของแสงสีบนท้องฟ้าในช่วงเวลากลางคืนมองดูคล้ายๆกับม่าน และมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของแสงสีอย่างรวดเร็วราวเปรียบเสมือนว่าแสงสีนั้นกำลังเต้นระบำอยู่บนท้องฟ้าสว่างสาดส่องไปด้วยสี

  ที่ทุกคนจะเรียกว่าแสงเหนือ ,แสงใต้  ปรากฏการณ์การเกิดแนวแสงสว่างสีต่างๆนาๆ  บนท้องฟ้ายามค่ำคืนอันสวยงาม  และแสงสีพวกนี้มักเกิดขึ้นในแถบประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตละติจูดสูง ซึ่งห่างไกลจากบ้านเมืองเรามาก แต่ก็ทำให้เราอยากไปสัมผัสได้เห็นกับตา บริเวณขั้วโลกที่มีอุณหภูมิต่ำ และอากาศหนาวเยือกเย็นสุดขั่วหัวใจเลย

  ซึ่งเท่าที่เราจะทราบกันก็หากเกิดบริเวณใกล้ขั้วโลกเหนือ เรียกว่า แสงเหนือ  และหากเป็นบริเวณใกล้ขั้วโลกใต้ เรียกว่า แสง  

แสงสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินี้ที่จริงแล้วเกิดขึ้นตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้  หากแต่ว่าบริเวณขั้วโลกมีช่วงเวลากลางวันกลางคืนที่สั้น-ยาว ไม่เท่ากัน บางเดือนไม่มีกลางคืน บางเดือนมีกลางคืนยาวนาน จึงไม่สามารถสังเกตเห็นได้ ดังนั้นการล่าแสงนั้นก็ควรตรวจเช็คสภาพอากาศบ้านเมืองเขาก่อนเดินทางไปนะค่ะทุกคน  ที่ดีจึงต้องมีช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสการพบมากที่สุด

ช่วงที่เหมาะที่สุดหากมาแล้วเจอแสงสีแน่นอนก็จะเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนเมษายน หรือ  สล็อต ufabet แตกง่าย  ไม่ก็ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์  จะเป็นช่วงที่มีระยะเวลากลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน จะทำให้เราประสบผลสำเร็จในการตามล่าเจอแสงสีด้วยธรรมชาติเหล่านั้น 

  แต่หากสำหรับใครต้องการมาท่องเที่ยวพักผ่อนตามล่าหาแสงสี อาจจะต้องวางแผนจัดตารางเวลาให้ดี หรือมีญาติหรือเพื่อนพี่น้องที่อยู่ตรงนั้นก็ให้คอยรายงานให้เราทราบแล้วค่อยแพ็คกระเป๋าไปจะได้ไปแล้วไม่ผิดหวังกับการล่าเจอแสงสีแน่นอน  สภาพอากาศจะมืดเร็วมาก สำคัญเลยนอกจากจะเป็นช่วงเดือนที่ความสำคัญต่อการพบแสงสีนั้น 

ทั้งแสงเหนือและแสงใต้ อาจจะต้องมีปัจจัยอื่น ๆ บวกเพิ่มเติมไปอีกด้วย  อาทิเช่นช่วงเวลาสภาพภูมิอากาศก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน    คือจะต้องเป็นวันที่สภาพท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้เมฆ บรรยากาศท่องฟ้ามืดสนิท ส่วนมากจะพบเห็นในช่วงเวลาประมาณกลางดึกของแต่ละวัน ยิ่งดึกยิ่งมืดจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการมองเห็นแสงเหนือ,แสงใต้ มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

เที่ยวศูนย์ศิลปาชีพบางไทร  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

    เที่ยวศูนย์ศิลปาชีพบางไทร เชื่อว่าถ้าพูดถึงศูนย์ศิลปาชีพบางไทร   ผู้คนส่วนใหญ่ต้องเคยได้ยินชื่อเสียงสถานที่แห่งนี้กันมาบ้างแล้วเนื่องจากสถานที่แห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นมาตามหลักแนวความคิด

และความต้องการของพระบาทสมเด็จพระบรมราชินีนาถซึ่งปัจจุบันนี้พระองค์ได้ถูกเปลี่ยนการเรียกขานมาเป็นพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     อย่างไรก็ตามสำหรับศูนย์ศิลปาชีพบางไทรนั้นมีการก่อตั้งมานานหลายสิบปีแล้วซึ่งที่นี่นั้นเป็นสถานที่ที่มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านนอกจากนี้ยังมีการสาธิตเกี่ยวกับเรื่องของการสร้างผลิตภัณฑ์ที่นำมาจำหน่าย

โดยศูนย์ศิลปาชีพบางไทรนั้นถูกสร้างขึ้นอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยามีทั้งความสวยงามและความโดดเด่นนอกจากนี้ที่นี่ยังมีแหล่งความรู้มากมายให้นักท่องเที่ยวนั้นได้มาศึกษาหาความรู้

        เนื่องจากว่าที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรนั้นจะมีการแบ่งโซนความรู้ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาหาข้อมูลไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับเรื่องของศิลปะวัฒนธรรมไทยซึ่งไม่ใช่

เพราะแค่ศิลปะวัฒนธรรมไทยในเขตภาคกลางเท่านั้นแต่เป็นศิลปะวัฒนธรรมไทยทุกภาคทั่วประเทศนอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้เห็นการจำลองวิถีชีวิตของคนในชนบทของคนในสมัยโบราณของคนในท้องถิ่นของไทยและยังมีการสร้างหมู่บ้านศิลปาชีพ

           

ซึ่งหมู่บ้านนี้ก็จะเป็นการนำชาวบ้านในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาเป็นการอาศัยอยู่และยังคงใช้ชีวิตตามวิถีแบบดั้งเดิม ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเห็นว่าภายในศูนย์ศิลปาชีพบางไทรนั้นจะมีบ้านเรือนในสมัยโบราณที่มีการสร้างกันโดยจะเห็นได้จากตัวอาคารนั้นมีการสร้างเป็นแบบทรงไทยประยุกต์จตุรมุขสูง 4 ชั้น

บริเวณพื้นที่โดยรอบก็มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามในตัวอาคารก็มีการส่งเสริมเกี่ยวกับข้อมูล ประวัติความเป็นมาของไทยนอกจากนี้ยังมีการแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของการเพาะปลูกการส่งเสริมเรื่องของการทำหัตถกรรมเครื่องจักสานเรียกได้ว่าที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรนั้นมีทั้งความสวยงามและแหล่งความรู้ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวันเลยทีเดียว 

           ภายในศูนย์ ศิลปาชีพบางไทรนั้นจะมีการแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของการทำมาอาชีพการใช้เครื่องจักสานต่างๆเรียกได้ว่ากิจกรรมทางด้านชุมชน ที่นี่จะมีการสอนเพื่อให้ชาวบ้านสามารถนำไปใช้งานได้จริงและสามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้นอกจากนี้ถ้าหากว่าชาวบ้านได้มีการนำเครื่องจักรสานตามที่ทางศูนย์ศิลปาชีพบางไทรได้มีการสอนไปนำมาขายทางศูนย์ศิลปาชีพ

ก็จะมีการซื้อต่อและนำไปจำหน่ายต่อให้เรียกว่าที่นี่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนเป็นจำนวนมากกันเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามสำหรับสถานที่แห่งนี้ทหารนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางมาเที่ยวสามารถเข้าชมภายในศูนย์ศิลปาชีพบางไทรได้ฟรีโดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8:30 น จนถึง 17:00 น ซึ่งจะปิดทุกวันอังคาร

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    สล็อต ufabet แตกง่าย

แนะนำเยี่ยมชมความสวยงามของยอดเขาโมอิวะ  ณ เกาะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น 

               สำหรับในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวของเกาะฮอกไกโด   โดยเมืองที่เราจะพาไปรู้จักแหล่งท่องเที่ยวในก็คือเมืองซัปโปโร

         ซึ่งเกาะฮอกไกโดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นและเมืองซัปโปโรนั้นก็อยู่บนเกาะฮอกไกโด   ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปรู้จักกันในครั้งนี้นั้นเป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก   

            สำหรับที่นี่ เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากที่เดินทางมาเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้หรืออาจจะกล่าวได้ว่าใครก็ตามที่เดินทางมาเที่ยวที่เกาะฮอกไกโดและได้เดินทางมาถึงเมืองซัปโปโรไม่มีใครที่จะพลาดที่จะไม่เดินทางมาเยี่ยมชมยังสถานที่แห่งนี้กันเลยเนื่องจากสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นจุดชมวิวมุมสูงยามค่ำคืนที่สวยที่สุด

และได้รับความนิยมจากชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่สุดเลยก็ว่าได้ซึ่งจุดชมเมืองแห่งนี้อยู่ใกล้กับเมืองซัปโปโรและเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบ 160 องศาซึ่งจุดชมวิวนี้มีความสูงประมาณ 531 เมตรโดยจุดชมวิวแห่งนี้เรียกว่ายอดเขาโมอิวะนั่นเอง 

          สำหรับจุดชมวิวแห่งนี้นะนักท่องเที่ยวจะต้องมีการนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนยอดเขา  ความสวยงามของยอดเขาโมอิวะ

ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางบนกระเช้าไฟฟ้าประมาณ 5 นาทีเนื่องจากว่าระยะทางตั้งแต่ด้านล่างไปจนถึงบนยอดเขานั้นมีความสูงประมาณ 1200 เมตรโดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาบนยอดเขาเพื่อชมวิวทิวทัศน์ได้ตั้งแต่ 10:30 น จนถึง 22:00 น ของทุกวันโดยจะเปิดให้บริการในช่วงประมาณเดือนเมษายนไปถึงเดือนพฤศจิกายน

แต่ถ้าหากว่าเป็นช่วงประมาณเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมนั้นจะมีการเปิดให้บริการประมาณ 11:00 น เป็นต้นไปจนถึง 22:00 น อย่างไรก็ตามการขึ้นไปบนยอดเขามองด้วยกระเช้าไฟฟ้านั้นจะต้องเสียค่าบริการคนละไม่ต่ำกว่า 300 เยนขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวจะใช้บริการเที่ยวเดียวหรือจะใช้บริการเป็นแบบไปและกลับนั่นเอง 

            เมื่อนักท่องเที่ยวเดินมาทางมาถึงบนยอดเขาโมอิวะแล้วนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของลมที่พัดมาโดนตัวแบบเย็นสบายเป็นอย่างมากนอกจากนี้ถ้าหากนักท่องเที่ยวอยู่ในช่วงเวลาเย็นหรือช่วงเวลายามค่ำคืนก็จะได้เห็นความสวยงามของพระอาทิตย์ตกดินในเมืองซัปโปโรแถมยังได้เห็นแสงไฟระยิบระยับที่ชาวเมืองได้มีการเปิดในช่วงเวลายามค่ำคืนซึ่งถือได้ว่าเป็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียวนอกจากนี้เมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นไปอยู่บนยอดเขาโมอิวะนักท่องเที่ยวจะเห็นลักษณะเด่นที่มีการสร้างเอาไว้นั่น

ก็คือระฆังแห่งความสุขซึ่งที่นี่คู่รักเป็นจำนวนมากมักจะพากันซื้อกุญแจมาคล้องเพื่อแสดงออกถึงสัญลักษณ์ของความรักที่จะไม่พรากจากกันและที่สำคัญบนนี้ยังมีภัตตาคารสุดหรูบริการนักท่องเที่ยวที่จะมาดื่มด่ำกับอาหารและบรรยากาศยามค่ำคืนอีกด้วย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    สล็อต ufabet แตกง่าย

พิพิธภัณฑ์ชนพื้นเมืองชาวไอนุ ประเทศญี่ปุ่น

    พิพิธภัณฑ์ชนพื้นเมือง  สถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาไปรู้จักในครั้งนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีการตั้งขึ้นมาสำหรับเอาไว้อนุรักษ์และสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องของวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองโดยชนพื้นเมืองดังกล่าวนั้นมีชื่อเรียกว่าเมืองไอ้นั่นเองซึ่งที่นี่บอกได้เลยว่าเขาจะมีการนำข้อมูลทั้งในเรื่องของการศึกษาวัฒนธรรมความเป็นอยู่การดำเนินชีวิตต่างๆ

มาจัดแสดงเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ทั้งหมดเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั้นจะได้ศึกษาค้นคว้าวิจัยทำความรู้จักเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของชาวพื้นเมืองไอนุนั่นเอง 

      สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แตกต่างจากที่อื่นๆทั่วไปเนื่องจากส่วนใหญ่และพืชพรรณมักจะอยู่ในตัวอาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆแต่ที่นี่จะอยู่กลางแจ้งนอกจากนี้วิมลแห่งนี้ยังมีความทันสมัย โดยสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นก็คือที่นี่จะมีการจำลองการใช้ชีวิตของชาวพื้นเมืองไอนุและมีการนำข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวไอนุมาจัดแสดงไว้ให้ดูเช่นที่เก็บอาหาร

หรือแม้แต่พวกจานชามนอกจากนี้ยังมีการจำลองบ้านของชาวไอนุว่ามีการสร้างบ้านแบบไหนและภายในบ้านตามมุมต่างๆในตัวบ้านของชาวไอนุนั้นมีการจัดวางสิ่งของต่างๆเอาไว้ในลักษณะใดนอกจากนี้ก็ยังมีการเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาและวัฒนธรรมต่างๆของชาวเมืองให้นักท่องเที่ยวได้อ่านเพื่อเป็นการศึกษาหาความรู้ไปในตัว

        สำหรับชาวไอนุนั้นเป็นชาวพื้นเมืองของคนญี่ปุ่นซึ่งว่ากันว่าเป็นคนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ดั้งแต่เดิมแล้วโดยคนกลุ่มนี้จะอยู่อาศัยบนเกาะฮอกไกโด  ซึ่งได้มีการตั้งชื่อชุมชนของตนเองว่าอายุนั้นเองคนกลุ่มนี้นั้นเป็นคนผิวขาวโดยมีเชื้อสายคอเคซอยด์ก็คือเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆแบบดั้งเดิมนั่นเอง

          อย่างไรก็ตาม บางตำรามีการกล่าวถึงลักษณะรูปลักษณ์ของชาวไอโนว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเขานั้นเป็นส่วนผสมระหว่างคนเอเชียและชาวยุโรปเนื่องจากว่าถึงแม้จะมีผิวเหมือนคนญี่ปุ่นแต่ก็มีลักษณะของความสูงใหญ่ไปทางยุโรปทำให้จึงมีหลายทฤษฎีที่พูดถึงชาวไอนุออกมานั่นเองนอกจากนี้ยังมีตำนานที่พูดถึงชาวไอนุบันทึกเอาไว้นายพิพิธภัณฑ์อีกด้วยซึ่งตำนานนั้นมีการพูดถึงว่าเมื่อหลายแสนปีมาแล้วชาวไอนุก็ถือกำเนิดเกิดขึ้นมาบนโลกมนุษย์นี้แล้วโดยต้นกำเนิดของชาวไอนุก็คือพระอาทิตย์นั่นเอง

       โดยว่ากันว่าชาวไอนุนั้นคือบุตรของพระอาทิตย์ที่มาเกิดในโลกมนุษย์แต่อย่างไรก็ตามทฤษฎีนี้หรือตำนานนี้ก็เป็นเพียงแค่ตำนานที่เล่าขานกันต่อๆกันมาแต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตำนานนี้ไม่มีความเท็จจริงมากน้อยเพียงใดและที่สำคัญนั้นปัจจุบันนี้ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าแท้ที่จริงแล้วชาวไอนุนั้นอยู่ ฮอกไกโดตั้งแต่ต้นหรือเพิ่งย้ายมาอยู่ปัจจุบันชาวไอนุนางยังคงมีอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นและเป็นชนชั้นที่มีฐานะยากจนที่สุดของประเทศเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.  สล็อต ufabet แตกง่าย