การสูญพันธุ์ครั้งที่สองของสิ่งมีชีวิตบนโลก

การสูญพันธุ์ครั้งที่สองของสิ่งมีชีวิตบนโลกเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตอย่างถาวร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3.45 ล้านปีก่อน และในยุคนั้นโลกยังคงเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น ปะการัง โพรโตซัว สัตว์จำพวกหอย และสัตว์น้ำอื่น ๆ

การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่นี้ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตในมหาสมุทรอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์น้ำและพืชทะเลที่เป็นแหล่งอาศัยหลักของสิ่งมีชีวิตในยุคนั้น

สาเหตุหลักของการสูญพันธุ์ครั้งที่สองนี้คาดว่าเกิดจากการชนของดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ที่พุ่งชนโลก

ก่อให้เกิดระเบิดอย่างรุนแรงและส่งผลกระทบต่อบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก เมื่อดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก การชนนี้ทำให้เกิดการระเบิดที่ทรงพลังมากจนสามารถปล่อยพลังงานมหาศาลเทียบเท่ากับการระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์หลายล้านเท่า

ผลกระทบจากการชนนี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบในวงกว้างผ่านทางการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ

 

การระเบิดจากการชนของดาวเคราะห์น้อยทำให้เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงที่แพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ ส่งผลให้เกิดไฟป่าอย่างรวดเร็ว ป่าไม้และพืชพันธุ์บนบกที่ถูกทำลายด้วยไฟป่าทำให้ระบบนิเวศและวงจรชีวภาพต้องเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย

สัตว์น้ำซึ่งยังคงเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตหลักในยุคนั้นก็ต้องเผชิญกับการสูญพันธุ์ที่รุนแรงเช่นกัน เนื่องจากฝุ่นและเถ้าถ่านจากการชนที่ถูกปล่อยขึ้นไปในบรรยากาศส่งผลให้เกิดการบดบังแสงแดดทั่วโลก

 

การบดบังแสงแดดนี้มีผลอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศในมหาสมุทร พืชน้ำ เช่น สาหร่ายที่อาศัยแสงแดดในการสังเคราะห์แสง ถูกขัดขวางในการทำงานและตายลงไปเป็นจำนวนมาก การสูญเสียพืชน้ำเหล่านี้ทำให้ระบบนิเวศในมหาสมุทรเสื่อมสลายไปตาม ๆ กัน

เนื่องจากสาหร่ายและพืชน้ำเป็นฐานอาหารของสัตว์น้ำเล็ก ๆ และเมื่อตัวเล็กเหล่านี้สูญเสียอาหาร สัตว์ใหญ่ในมหาสมุทรก็ขาดแคลนอาหารตามไปด้วย ก่อให้เกิดการล้มครืนของห่วงโซ่อาหาร

 

นอกจากนี้ ผลกระทบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการปล่อยแก๊สพิษที่เกิดจากการระเบิดและการเผาไหม้ของวัสดุต่าง ๆ จากการชนของดาวเคราะห์น้อย แก๊สพิษเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วโลกและทำให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นในระยะสั้น ในขณะเดียวกัน

ก็ทำให้เกิดความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพของสิ่งมีชีวิตที่เหลือรอด และจากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้โลกกลับเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้งด้วยเช่นกัน 

 

การสูญพันธุ์ครั้งที่สองนี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ทำให้ชีวิตบนโลกต้องเผชิญกับความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้ว่าสัตว์น้ำจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้น แต่เหตุการณ์นี้ก็แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมสามารถส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งมีชีวิตอย่างถาวร

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย      alpha888 เครดิตฟรี

บอกต่อสูตรซ่อมแซมยาแนวดำ

บอกต่อสูตรซ่อมแซมยาแนวดำ ที่ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนานให้สะอาดปิ๊งเสมือนใหม่ หลายบ้านเผชิญกับปัญหาร่องยาแนวดำ ไม่น่ามองดู ยิ่งเป็นหลักกระเบื้องที่จำต้องโดนน้ำเสมอ ๆ

อย่างพื้นข้างในห้องอาบน้ำก็ชอบจำเป็นต้องพบเห็นทั้งยังความชุ่มชื้น คราบเปื้อนสบู่ คราบไคลรวมทั้งคราบเปื้อนเลอะเทอะ

ซึ่งมีความสกปรกต่าง ๆ เข้าไปสะสมในร่องยาแนว ถ้าหากรีบขัดออกในทันทีก็บางทีอาจจะทำเป็นอยู่ แต่ว่าถ้าปลดปล่อยสะสมไว้เป็นระยะเวลานานในที่สุดก็จะแปลงเป็นรอยเปื้อนดำฝั่งแน่นจนถึงขัดไม่ออกนั่นเอง

สำหรับใครก็ตามที่กำลังพบกับปัญหาร่องยาแนวดำ ขัดเช่นไรก็ไม่ออก วันนี้พวกเราก็เลยเอาสูตรซ่อมแซมยาแนวดำมาฝากเพื่อน ๆ พ้อง ๆ กัน รับประกันว่าสะอาดปิ๊งเสมือนใหม่อย่างยิ่งจริง ๆ

 

สูตรน้ำส้มสายชู สูตรนี้เหมาะสมกับพื้นที่เป็นกระเบื้องปกติทั่ว ๆ ไปเพียงแค่นั้น ไม่เสนอแนะสำหรับกระเบื้องที่เป็นหินอ่อน หรือแกรนิต เพราะน้ำส้มสายชูนั้น มีฤทธิ์กัดเซาะที่รุ่นแรง ถึงแม้ในกระเบื้องปกติก็ควรจะผสมน้ำกินในน้ำส้มสายชูเพื่อเจือจางด้วย

ก่อนที่จะเอามาฉีดประพรมรอบ ๆ ร่องยาแนวที่มีรอยเปื้อนดำ ทิ้งเอาไว้ราว ๆ 15 นาที แล้วต่อจากนั้นใช้ฟองน้ำบิดหมาดเบา ๆ เช็ดตามยาแนว

อีกทั้งห้ามลืมนำเบกกิ้งโซดาโรย เพื่อดูดซึมสารตกค้างของน้ำส้มสายชูด้วย หลังจากนั้นให้นำแปรงมาขัด ๆ เพียงเท่านี้คราบเปื้อนดำก็จะหายหมดถึงยาแนวกลับมามีความสะอาดและก็ขาวเสมือนใหม่

 

สูตรน้ำมะนาว อีกหนึ่งวิธีแนวทางที่ช่วยจัดการกับรอยคราบบนยาแนวออกได้จริง ๆ แต่ว่าจำเป็นต้องบอกก่อนว่าสูตรนี้ค่อนข้างจะมีส่วนผสมที่มากกว่าสูตรอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ น้ำดื่ม 7 ถ้วยตวง เบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วยตวง น้ำส้มสายชูหนึ่งส่วนสี่ถ้วย แล้วก็น้ำมะนาวหนึ่งส่วนสามถ้วยตวง

เมื่อจัดเตรียมส่วนประกอบเสร็จแล้ว ให้ผสมทุกสิ่งเข้าด้วยกัน คนยากจนเปลี่ยนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วต่อจากนั้นหาแปรงสีฟันอันเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ๆ

ที่ไม่ใช้งานแล้ว จุ่มส่วนประกอบออกมาและก็ขัดเบา ๆ รอบ ๆ ยาแนวที่มีปัญหาคราบฝังแน่น เพียงเท่านี้รอยคราบต่าง ๆ ก็หายไปเลย เมื่เป็นเช่นนี้ก็ให้ใช้ไม้ถูพื้นถูตามอีกหนึ่งรอบ

สูตรบอแรกซ์ สูตรนี้มีส่วนผสมร่วมกันทั้งผอง 3 อย่างร่วมกัน เป็นต้นว่า น้ำผงบอแรกซ์ และก็เบกกิ้งโซดา โดยมีอัตราส่วนดังต่อไปนี้ น้ำ หนึ่งต่อหนึ่ง รวมทั้งเบกกิ้งโซดา 2 ส่วน เมื่อผสมทุก ๆ อย่างให้ถูกกันแล้ว ให้นำไปขัดเบา ๆ ด้วยแปรง เมื่อคราบเปื้อนต่าง ๆ หลุดออกไปหมดแล้ว ก็ให้ตามด้วยการล้างพื้นอีกทีด้วยน้ำที่สะอาดด้วยนะ

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    ole777 ทางเข้า มือถือ

ถ้าคุณเป็นเบาหวาน ควรทาน 5 ผักนี้: ช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในเลือด

ผู้ป่วยเบาหวานต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ การเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ

โดยเฉพาะผักที่มีคุณสมบัติช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ด้านล่างนี้คือ **5 ผักแนะนำ** สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่เพียงดีต่อสุขภาพ แต่ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ตำลึง

ตำลึงเป็นผักพื้นบ้านที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในลำไส้เล็ก และยังมีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดโดยธรรมชาติ  

– ประโยชน์: ตำลึงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย  

– การรับประทาน: ตำลึงสามารถนำไปทำแกงจืด หรือผัดกับน้ำมันมะกอกเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ  

  1. ฟักทอง

ฟักทองเป็นผักที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำและมีสารอาหารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน  

– ประโยชน์: ฟักทองมีไฟเบอร์สูงช่วยลดการดูดซึมน้ำตาล นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของอินซูลิน  

– การรับประทาน: สามารถนึ่งหรือทำเป็นซุปฟักทอง โดยไม่ใส่น้ำตาลเพิ่มเติม  

  1. กระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียวมีสารเมือกธรรมชาติที่ช่วยจับกับน้ำตาลในระบบทางเดินอาหาร ลดการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด  

– ประโยชน์: มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและลดคอเลสเตอรอล  

– การรับประทาน: ต้มเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในแกงส้ม  

  1. บล็อกโคลี่

บล็อกโคลี่เป็นผักที่มีไฟเบอร์สูงและอุดมไปด้วยสารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งช่วยลดความเสียหายของเซลล์จากน้ำตาลในเลือดสูง  

– ประโยชน์: ช่วยลดระดับน้ำตาลและกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน  

– การรับประทาน: สามารถนำไปลวกหรือนึ่งเพื่อคงคุณค่าทางโภชนาการ หรือทำสลัดบล็อกโคลี่เพื่อเพิ่มความอร่อย  

  1. หอมใหญ่

หอมใหญ่มีสารฟลาโวนอยด์และสารเควอร์ซิทิน (Quercetin) ที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดโดยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน  

– ประโยชน์: ช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลและป้องกันการอักเสบในร่างกาย  

– การรับประทาน: ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร เช่น ผัดหอมใหญ่กับเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หรือนำไปทำซุป  

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

  1. หลีกเลี่ยงการปรุงอาหารด้วยน้ำตาล: แม้ผักเหล่านี้จะมีประโยชน์ แต่การปรุงด้วยน้ำตาลจะลดคุณค่าในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด  
  2. เน้นการปรุงอาหารแบบเรียบง่าย: เช่น ต้ม นึ่ง หรือผัดด้วยน้ำมันมะกอก  
  3. รับประทานอาหารเป็นเวลา: เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ  

 

การบริโภคตำลึง ฟักทอง กระเจี๊ยบเขียว บล็อกโคลี่ และหอมใหญ่เป็นประจำสามารถช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผักเหล่านี้ไม่เพียงให้ไฟเบอร์สูง

แต่ยังช่วยปรับสมดุลระดับน้ำตาลและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว.

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    holiday palace มือถือ

8 ขั้นตอนลดไขมันทั่วร่างกาย ง่ายและไว

การลดไขมันทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วและยั่งยืนนั้น จำเป็นต้องใช้วิธีการที่ผสมผสานระหว่างการออกกำลังกาย โภชนาการที่เหมาะสม และการดูแลสุขภาพจิต นี่คือ 8 ขั้นตอนที่สามารถทำได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพในเวลาอันสั้น:

  1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้ 

การตั้งเป้าหมายการลดไขมันที่ชัดเจนและเป็นไปได้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เช่น ลดน้ำหนัก 2-3 กิโลกรัมในช่วงเวลา 4-6 สัปดาห์ การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีความมุ่งมั่นและติดตามความก้าวหน้าได้ง่ายขึ้น

  1. ควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่บริโภค 

การลดไขมันเริ่มต้นจากการควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่บริโภค การกินแคลอรี่น้อยกว่าที่ร่างกายใช้ในแต่ละวันจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ แนะนำให้ลดประมาณ 500-1000 แคลอรี่ต่อวันเพื่อให้ลดน้ำหนักได้ 0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์

  1. เลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง 

โปรตีนช่วยเสริมสร้างและรักษากล้ามเนื้อ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเผาผลาญไขมัน โปรตีนยังช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ทำให้ไม่รู้สึกหิวบ่อย เลือกอาหารโปรตีนสูงจากแหล่งที่ดี เช่น เนื้อปลา อกไก่ ไข่ และถั่ว

  1. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ 

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเดินเร็ว ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและช่วยลดไขมันทั่วร่างกาย แนะนำให้ออกกำลังกายคาร์ดิโออย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์

  1. เสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยการยกน้ำหนัก  

การออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ แต่ยังช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในระหว่างการพักผ่อนอีกด้วย การฝึกด้วยน้ำหนักหรือแรงต้าน เช่น การวิดพื้น การยกน้ำหนัก หรือสควอท จะช่วยให้รูปร่างกระชับและเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น

  1. ลดการบริโภคน้ำตาลและอาหารแปรรูป  

อาหารที่มีน้ำตาลและแป้งขัดขาว เช่น ขนมปังขาว ขนมหวาน หรืออาหารแปรรูป มักมีแคลอรี่สูงและทำให้การลดไขมันเป็นไปอย่างช้าลง แนะนำให้เลือกอาหารจากธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้สด ธัญพืชเต็มเมล็ด และโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ

  1.  จัดการความเครียด 

ความเครียดทำให้เกิดการเพิ่มของฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันได้มากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง การใช้วิธีผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือการออกกำลังกายเบาๆ จะช่วยลดระดับความเครียดและส่งเสริมการลดไขมัน

  1. ทำตามแผนอย่างสม่ำเสมอ  

การลดไขมันไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในระยะเวลาสั้นๆ การทำตามแผนการลดไขมันอย่างสม่ำเสมอและมีวินัย เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนกว่าจะเห็นผล แต่ความสำเร็จจะยั่งยืนและมีสุขภาพดี

การลดไขมันทั่วร่างกายที่ได้ผล ต้องใช้ความพยายามและการจัดการที่เหมาะสมทุกด้าน ทั้งการกิน การออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพจิต

 

 

สนับสนุนโดย    alpha88

ซ่อมแซมดูแลบ้านหลังฤดูฝนหมดไป

ขั้นตอนดูแลบ้าน เตรียมการก่อนหน้าหนาว ภายหลังที่ฤดูฝนหมดไป ฤดูหนาวก็ขยับเข้ามาแทนที่ ถึงจะเป็นฤดูหนาวที่ไม่ค่อยหนาวมากมายสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นก็นับว่าอากาศค่อนข้างจะดีอย่างยิ่งจริง ๆ

ซึ่งก็เป็นช่วง ๆ ขณะที่คนอีกจำนวนไม่น้อยคอย เพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นช่วง ๆ ขณะที่อากาศเย็นสบายสุด ๆ แล้ว ยังเป็นช่วง ๆ ของเทศกาลแห่งความสบายอย่าง เทศกาลคริสต์มาสแล้วก็เทศกาลขึ้นปีใหม่ของบ้านพวกเราด้วย

ถ้าหากไม่ต้องการให้เทศกาลที่ความสำราญจำต้องมาหมดสนุกเนื่องจากบ้านไม่พร้อมแล้วล่ะก็ วันนี้  ole777 ทางเข้า   ขอเสนอแนะแนวทางสำหรับดูแลบ้าน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูหนาวมาฝากเพื่อน ๆ ทั้งหลายกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

 

1.ซ่อมบำรุง

สำหรับฤดูฝนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา บอกเลยว่าบ้านของพวกเราจำเป็นต้องพบเจอกับมรสุมอย่างมากถ่วง ในบางพื้นที่ก็ถึงกับอุทกภัยกันอย่างยิ่งจริง ๆ ฉะนั้นก่อนที่จะถึงฤดูหนาวดีควรจะตรวจเช็คทุกจุดข้างในบ้านว่ามีจุดไหนที่พังทลาย

และก็จะต้องได้รับการปรับแก้ปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมบ้างจะได้กระทำปรับปรุงแก้ไขซ่อมแซมให้เสร็จก่อนที่จะฤดูหนาวจะมาเยี่ยม เป็นต้นว่า การรั่วซึมของหลังคา, วงกบของประตูบวมโก่ง หรือฝาห้องที่มีเชื้อราขึ้น

หาเจอให้รีบซ่อมในทันทีด้วยแนวทางที่สมควร แม้กระนั้นถ้าพบว่าเสียหายมากมายให้ตรึกตรองแปรไปใช้อุปกรณ์ประเภทเส้นใยปูนซีเมนต์แทนการใช้ไม้ เนื่องจากว่าจะหลีกเลี่ยงปัญหาเกี่ยวกับการหดแล้วก็ขยายตัวตามสภาพภูมิอากาศ

 

2.คุ้มครองไฟไหม้

ตอนหน้าหนาวจะเป็นตอนในช่วงเวลาที่พวกเรามองเห็นข่าวสารการเกิดเหตุเพลิงไหม้เยอะที่สุด โน่นก็เนื่องจากตอนหน้าหนาวจะมีอากาศที่แห้งมากมาย ทำให้มีการเกิดการจุดไฟแล้วก็ขยายได้ง่าย

โดยเฉพาะบ้านไม้ที่นับว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างยอดเยี่ยม ด้วยเหตุดังกล่าวพวกเราควรจะคุ้มครองปกป้องไว้ก่อนดีมากยิ่งกว่าจำเป็นต้องมานั่งเศร้าหมองคราวหน้าโดยการตรวจเช็คเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นในบ้าน สายไฟแล้ว

ก็รวมถึงปลั๊กไฟทุกจุด ถ้าพบว่ามีการเสียงหายควรจะรีบเปลี่ยนแปลงโดยทันที นอกเหนือจากนั้นควรจะงดเว้นหรือหลีกเลี่ยงวิธีการทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟ เช่น จุดธูปเทียน ฯลฯ

 

3.ลงสีใหม่

สำหรับบ้านผู้ใดที่เผชิญกับปัญหาสีหลุดลอกมาตั้งแต่ฤดูฝน นี่จะเป็นช่องทางให้ท่านได้เปลี่ยนสีบ้านใหม่ เนื่องจากว่าฤดูหนาวจะก่อให้สีที่ทาบ้านนั้นแห้งไว

เนื่องด้วยมีความชื้นที่อยู่ภายในอากาศออกจะต่ำเมื่อเทียบกับช่วงอื่นของปี ทำให้สีติดง่าย อีกทั้งแห้งไว ยิ่งไปกว่านี้ยังลงสีด้านนอกได้โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าฝนจะตก

 

4.ดูแลสวน

ฤดูหนาวเป็นตอนที่มีอากาศแห้งและก็เย็น ส่งผลให้ต้นไม้เฉาง่าย ดังนี้ในตอนหน้าหนาวก็เลยจะต้องมีการดูแลสวนของพวกเราเป็นพิเศษ หมั่นลดน้ำเสมอ ๆ ดูแลอย่างถูกแนวทาง ที่สำคัญควรจะตัดแต่งกิ่งอยู่ตลอดถ้าหากเผชิญกิ่งหรือใบที่เป็นโรคควรจะรีบตัดทิ้งในทันที เพื่อคุ้มครองการยืนขึ้นลุกลามไปยังต้นอื่น

 

3 ประโยชน์ขี่ม้าที่ควรรู้สำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬาขี่ม้า

 

ต้องยอมรับเลยว่าในสมัยปัจจุบันนี้กีฬาขี่ม้าเป็นกิจกรรมกีฬาที่ได้รับความนิยมและเป็นที่น่าสนใจ เป็นอย่างมาก เนื่องจากกีฬาประเภทนี้เป็นกีฬาที่มีเสน่ห์แถมยังเป็นกิจกรรมกีฬาที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย

ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมองกีฬาขี่ม้าเป็นกีฬาที่มีความอันตรายค่อนข้างสูง แต่หากเราเล่นอย่างเหมาะสมหรือมีพื้นฐานมีทักษะทั้งด้านการขี่ม้าเป็นอย่างดีก็จะสามารถเล่นกีฬาขี่ม้าได้อย่างชำนาญและมีประสิทธิภาพ

แต่ทว่าเด็กสมัยใหม่ในสมัยปัจจุบันนี้ชื่นชอบการเล่นกีฬาขี่ม้าและมองว่ากีฬาประเภทนี้เป็นกีฬาที่น่าสนใจและอยากที่จะเริ่มต้น เล่นกีฬาขี่ม้า

ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะกีฬาประเภทนี้ถึงแม้จะเป็นกีฬาที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง แต่หากเราเริ่มเรียนในขั้นพื้นฐาน ยิ่งเราหมั่นฝึกฝนไปเรื่อยๆก็จะทำให้การเล่นกีฬามีความชำนาญและมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น

แถมยังทำให้การเล่นกีฬาขี่ม้านั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูประโยชน์ของกีฬาขี่ม้าที่หลายๆคนจะต้องรู้สำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬาหรือคนที่อยากเริ่มต้นเล่นกีฬาขี่ม้า ไปดูกันเลย

1.ช่วยฝึกความอดทน แน่นอนว่ากีฬาขี่ม้าเป็นกีฬาที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง จึงสามารถช่วยฝึกความอดทนการมีวินัยให้กับเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งถ้าเรามีความอดทนที่จะเล่นกีฬาขี่ม้า ขอบอกเลยว่าจะยิ่งทำให้เรานั้นดูเป็นคนที่มีความอดทนกล้าที่จะเสี่ยงแถมยังมีวินัยที่จะฝึกฝนกีฬาประเภทนี้ให้เกิดประโยชน์สูงที่สุดได้อีกด้วย

 

2.ช่วยฝึกให้เราเป็นผู้นำที่ดี รู้หรือไม่ว่ากีฬาขี่ม้าถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมกีฬาที่สามารถช่วยฝึกพัฒนาการหรือฝึกให้เรานั้นเป็นผู้นำที่ดีไม่ว่าจะ ในเรื่องไหนก็ตามจะทำให้เรานั้นกล้าที่จะเป็นผู้นำ กล้าที่จะไปจุดที่หลายๆคนไม่กล้าที่จะไปได้ถึง ซึ่งขอบอกเลยว่าหากเราหมั่นฝึกซ้อมกีฬาประเภทนี้เป็นประจำ และหมั่นพัฒนาตนเองอยู่เสมอจะยิ่งทำให้การเล่นกีฬาขี่ม้านั้นเกิดประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา

 

3.ช่วยฝึกการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากปัญหาอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหมั่นฝึกฝนทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้เรากล้าที่จะตัดสินใจ และไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตามก็จะสามารถแก้ปัญหาได้เฉพาะหน้านั่นเอง ยิงถล่มหมั่นฝึกฝนเป็นประจำจะยิ่งทำให้เรานั้นมีทักษะทางด้านการเล่นกีฬาขี่ม้าอย่างชำนาญติดตัวไปได้นั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    alpha88 ทางเข้า

กินที่ไหนดีรอบเยาวราชและถนนเยาวราช   มีมาแนะนำต่อไปนี้ 

 

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารในร่ม มากมาย   รวมถึงร้านน้ำชาที่น่าตื่นตาตื่นใจพร้อมชาหลายร้อยชนิดและร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารฟิวชั่นที่มีกลิ่นอายตะวันออก กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์คือการผจญภัย

และยิ่งคุณค้นพบได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น นอกจากนี้ โปรดทราบว่าฉากอาหารในไชน่าทาวน์ส่วนใหญ่จะมีชีวิตชีวาในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

1.ครัวพร ละไม  เป็นร้านอาหารริมถนนทั่วไป

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารแบบคนท้องถิ่น และด้วยเหตุนี้ เราจึงหมายถึง ‘ท้องถิ่นจริงๆ’ สถานีปรุงอาหารเรียบง่ายตั้งอยู่ฝั่งหนึ่งของถนน ส่วนอีกโต๊ะก็เรียงรายไปด้วยผนังที่มีคราบเขม่า ดังนั้นบริการจึงต้องข้ามถนนที่พลุกพล่านพร้อมกับจานร้อนที่กำลังเดือดอยู่ตลอดเวลา

แม้จะดูโทรมและเหมือนกับร้านอาหารอื่นๆ ในเยาวราชในกรุงเทพ ครัวพรละไมมักจะเต็มเสมอ แต่สำหรับการมาครั้งแรก ต้องใช้ความกล้าเล็กน้อยในการเลือกร้านนี้     ขึ้นชื่อในเรื่องหอยทอดที่เผ็ดร้อน (ไข่เจียวหอยแมลงภู่และถั่วงอกเสิร์ฟบนจานเหล็กหล่อ)

และราดหน้าที่เผ็ดร้อนยิ่งกว่านั้นอีก ราดหน้าเป็นส่วนผสมของกุ้ง ปลาหมึก ไก่ และผักที่นำมาเสิร์ฟบนจานเหล็ก เมนูพิเศษอื่นๆ ที่แนะนำ ได้แก่ ก๋วยจั๊บคั่วกรอบ (หมี่ผัดกรอบ) และเผือกกัว (ขนมเผือกผัด)

 

2.ก๊วยจั๊บนายเฮือน   เป็นหนึ่งในร้านโปรดตลอดกาลของถนนเยาวราช…

แผงขายของเล็กๆ แห่งนี้เสิร์ฟแค่อาหารจานเดียวเท่านั้น และคนแน่นไม่หยุดตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงดึกดื่น ก๋วยจั๊บทำจากเส้นหมี่ม้วนใหญ่ใส่หมูสามชั้นกรอบ บางครั้งก็ใส่ไส้ และที่สำคัญเสิร์ฟในน้ำซุปใสรสพริกไทย ราคาเริ่มต้นประมาณ 40 บาท 

  เป็นที่นิยมมากจนคุณต้องอดทนรอคิวและยืนอยู่ตรงสี่แยกที่พลุกพล่านอย่างไม่น่าเชื่อนี้ หรือหากคุณโชคดี พวกเขาอาจพาคุณไปตามเลนเพื่อจัดโต๊ะสำหรับคุณโดยเฉพาะในที่ห่างไกล

 

3.เกี๊ยวปูโอเดียน   เป็นร้านอาหารที่สะอาดและค่อนข้างสุขุม

ด้านหลังวัดไตรมิตรในถนนเล็กๆ ใกล้กับประตูจีนของวงเวียนโอเดียนในไชน่าทาวน์ แน่นอนว่าควรจะเรียกว่า Odeon Restaurant แต่กลับมีการพิมพ์ผิดที่มีเสน่ห์หลายอย่างในกรุงเทพด้วยชื่อ ‘Odean’ นี่ไม่ใช่แค่ซุปก๋วยเตี๋ยวอีกร้านหนึ่ง เพราะชามมีราคาสูงถึง 500 บาท  

ปกติบะหมี่จะเป็นเพียงบะหมี่ไข่สีเหลืองแบบดั้งเดิมและซุปก็ใสและเบา… แล้วส่วนผสมลับของพวกเขาคืออะไร  ส่วนผสมหลักไม่มีอะไรมากไปกว่าก้ามปูแสนอร่อยที่เสิร์ฟบนซุปของคุณ แต่ไม่ใช่ก้ามปูชิ้นใหญ่ ใหญ่เท่าที่คุณยินดีจ่าย เมื่อสั่งซื้อคุณต้องระบุราคาที่คุณต้องการชำระ: ตั้งแต่ 200 ถึง 500 บาท

แน่นอนว่าคุณสามารถสั่งซุปปูธรรมดาๆ ได้ในราคา 50 บาท โดยคุณจะได้เนื้อปูมาแค่ชิ้นเดียว แต่ที่เด็ดจริงๆ คือ สั่งก้ามใหญ่ๆ ทุกคนรู้ ยิ่งยิ่งใหญ่ ยิ่งดี! คุณสามารถสั่งอาหารจานเดียวกันแต่เป็นแบบ “แห้ง” โดยเสิร์ฟซุปแยกกัน

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    หวยดีพลัส

สถานที่ลอยกระทงในกรุงเทพฯ   

         ค่ำคืนลอยกระทงถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่งดงามที่สุดในกรุงเทพฯ เป็นเวลาที่ผู้คนรวมตัวกันรอบทะเลสาบ แม่น้ำ และลำคลองเพื่อสักการะเจ้าแม่น้ำ

โดยการปล่อยแพรูปดอกบัวที่สวยงามประดับด้วยเทียน ธูป และดอกไม้ลงสู่น้ำ     ทุกปี

ลอยกระทงจะตกในคืนเดือน 12 จันทรคติ (ปกติในเดือนพฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่พระจันทร์เต็มดวงส่องสว่างบนท้องฟ้า

การเห็นกระทงหลายพันตัวและเทียนที่กะพริบส่องแสงนับพันดวงไปไกลถึงขอบฟ้านั้นเป็นภาพที่น่ามหัศจรรย์อย่างแท้จริง และมีสถานที่มากมายในกรุงเทพฯ ที่คุณสามารถมีส่วนร่วมกับการเฉลิมฉลองได้    

ลอยกระทงคืออะไร    ประวัติศาสตร์เบื้องหลังเทศกาลนี้มีความซับซ้อน และคนไทยเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ด้วยเหตุผลหลายประการ

เมื่อฤดูเก็บเกี่ยวข้าวหลักสิ้นสุดลง ก็ถึงเวลาขอบคุณเจ้าแม่น้ำสำหรับปริมาณข้าวที่อุดมสมบูรณ์ของเธอตลอดทั้งปี รวมถึงคำขอโทษที่สร้างมลพิษให้กับผืนน้ำ  

 

บางคนเชื่อว่านี่คือเวลาที่จะแสดงสัญลักษณ์ ‘ลอย’ ความโกรธและความแค้นทั้งหมดที่คุณยึดมั่นไว้ และการทำเล็บมือหรือผมปอยผมถือเป็นวิธีหนึ่งในการปล่อยด้านมืดของตัวเองเพื่อเริ่มต้น ปราศจากความรู้สึกด้านลบอีกครั้ง หากเทียนของคุณยังคงจุดอยู่จนกระทงหายไปจากสายตา นั่นหมายถึงปีแห่งความโชคดี  

ตามธรรมเนียมแล้วคนไทยจะปล่อยกระทงลงแม่น้ำและคลองเล็กๆ ที่เรียกว่าคลอง ปัจจุบันนี้สระน้ำหรือทะเลสาบก็ได้ สถานที่หลายแห่งจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมมากมาย เช่น การแสดงรำรำวง การแข่งขันทำกระทง และการประกวดความงาม    ผู้คนเริ่มปล่อยโคมในกรุงเทพฯ แล้ว

แต่นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของเทศกาลเท่านั้น หากต้องการสัมผัสประสบการณ์โคมไฟแบบเต็มๆ ให้มุ่งหน้าไปยังเชียงใหม่เพื่อร่วมเทศกาลยี่เป็ง แม้ว่าผู้คนมักจะขับโคมในภูเก็ตและสมุยก็ตาม

 

ลอยกระทงในกรุงเทพได้ที่ไหน

งานลอยกระทงหลักในกรุงเทพฯ จัดขึ้นที่เอเชียทีคตั้งแต่ปี 2556 ก่อนหน้านี้จัดขึ้นริมฝั่งวัดสระเกศในย่านเมืองเก่า ซึ่งยังคงเป็นสถานที่เฉลิมฉลองยอดนิยม สำหรับใครที่อยู่บริเวณถนนข้าวสาร ให้มุ่งหน้าไปที่ท่าเรือพระอาทิตย์ที่อยู่ใกล้ๆ กันโรงแรมหลายแห่งในกรุงเทพฯ

จัดงานลอยกระทงที่บริเวณสระว่ายน้ำ คุณสามารถลองลอยกระทงหรือแม้แต่การเต้นรำรำวงแบบดั้งเดิมโดยไม่ต้องทะเลาะกันท่ามกลางผู้คนมากมายนอกบริเวณโรงแรม    โรงแรมที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับความนิยมเป็นพิเศษ และมักจะมีงานลอยกระทงร่วมกับอาหารค่ำมื้อพิเศษและดอกไม้ไฟ

 

ลอยกระทงที่เอเชียทีค

หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์ลอยกระทงในแบบที่คนท้องถิ่นทำแล้ว มุ่งหน้าไปที่เอเชียทีค ตลาดกลางคืนริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นที่ที่คุณจะได้พบกับฝูงชนที่ใหญ่ที่สุดและการแสดงที่น่าประทับใจ คำเตือนการจราจรบริเวณนี้จะติดขัดอย่างมาก และจะต้องต่อคิวขึ้นเรือรับส่งหน้าสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสินเป็นเวลานาน

กิจกรรมนี้เริ่มต้นในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน และมีกระทงมากมายให้ซื้อได้ตามริมแม่น้ำ คุณยังสามารถชมวิธีการพับใบตองแบบดั้งเดิมหรือลองทำด้วยตัวเองก็ได้   บริเวณทางเดินริมทะเลขนาดใหญ่ด้านหน้าเอเชียทีคจะจัดกิจกรรมหลักๆ รวมถึงการเล่าเรื่องราววันลอยกระทงผ่านดนตรีและการเต้นรำ สถานที่ปล่อยกระทง ขบวนแห่ประดับไฟ และการแสดงพลุ ถ้าคนที่นี่ดูเยอะเกินไป ก็ยังมีจุดอื่นๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ชมอีกมากมาย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    หวยดีพลัส

3 เกาะที่สวยที่สุดในโลก

1.มัลดีฟส์   มัลดีฟส์เป็นที่ตั้งของเกาะที่มีเสน่ห์มากที่สุดในโลก

แต่เป็นทะเลที่ทำให้เกาะเหล่านี้เปล่งประกายอย่างแท้จริง ผืนน้ำสีอะความารีนที่ส่องสว่างพร้อมความใสดุจคริสตัลเลียบชายฝั่งสีขาวอันตระการตาเหล่านี้ ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นเหนือมหาสมุทรอินเดียเลย   

มัลดีฟส์ยังมีชื่อเสียงในด้านบังกะโลเหนือน้ำ ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับน้ำทะเลใสอันเงียบสงบจากที่พักที่สะดวกสบายของคุณ   หมู่เกาะมัลดีฟส์ประกอบด้วยอะทอลล์ตามธรรมชาติ 26 แห่ง เป็นประเทศที่อยู่ต่ำที่สุดของโลก

โดยมีจุดสูงสุดเหนือทะเลไม่เกิน 3 เมตร ซึ่งเป็นการวัดที่หดตัวทุกปี   ใต้ผืนน้ำ แนวปะการังอุดมสมบูรณ์ ดึงดูดนักดำน้ำและนักดำน้ำตื้นจากทั่วโลก นักเล่นเซิร์ฟมักจะมารวมตัวกันที่นี่เพื่อเล่นกระดานโต้คลื่นที่ไม่พลุกพล่าน

2.โบราโบรา เฟรนช์โปลินีเซีย  

เกาะภูเขาไฟเขียวชอุ่มที่มีรูปร่างเหมือนหมวกปีกกว้างยักษ์นี้เต็มไปด้วยจินตนาการในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้นับไม่ถ้วน จุดโฟกัสและทรัพย์สินที่ดีที่สุดของความงามเขตร้อนนี้คือทะเลสาบอันน่าหลงใหลที่มีสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ ปลา เต่า ฉลาม และปลากระเบนแหวกว่ายอยู่ในน้ำใส และมีเกาะเล็กเกาะน้อยหรือโมตัสกระจายอยู่ทั่วทะเลสาบ 

  แน่นอนว่าเกาะแห่งนี้มีความโดดเด่นในสไตล์ฝรั่งเศส พร้อมด้วยอาหารที่น่ารับประทานเข้ากัน การดำน้ำและดำน้ำตื้นเป็นกิจกรรมที่ยอดเยี่ยมในแนวปะการังโดยรอบ

และเส้นทางเดินป่าที่ทอดยาวผ่านป่าที่มีต้นปาล์มเรียงราย  เช่นเดียวกับมัลดีฟส์ โบราโบราเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทหรูและบังกะโลเหนือน้ำ ซึ่งคุณสามารถนอนหลับไปกับเสียงคลื่นทะเลอันอ่อนโยน

3.ปาลาวัน, ฟิลิปปินส์   เป็นที่ตั้งของชายหาดที่สวยที่สุดในโลกและเป็นสวรรค์ของฟิลิปปินส์

    พื้นที่ที่น่าทึ่งที่สุดและสิ่งที่ทำให้เกาะนี้แตกต่างจากที่อื่นคือหน้าผาหินปูนและชายหาดทางตอนเหนือสุดของปาลาวัน ใกล้กับเมืองเอลนิโด  ชายหาดและทิวทัศน์ของเมืองนั้นสวยงามมาก  แต่คุณยังสามารถสำรวจอ่าว Bacuit Bay อันงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ

ซึ่งมักจะเป็นสิ่งที่คุณจะเห็นในภาพถ่ายของปาลาวัน   เกาะหินปูนอันตระการตาที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้เขียวขจียื่นออกมาจากน้ำและตั้งตระหง่านเหนือหาดทรายสีขาวแวววาวที่รายล้อมไปด้วยต้นปาล์มที่ส่งเสียงกรอบแกรบ

อย่าลืมใช้บริการทัวร์ทางเรือทุกวันเพื่อชมไฮไลท์ต่างๆ เช่น  บิ๊กลากูน ซีเคร็ตลากูน และเกาะชิมิสึ และอื่นๆ อีกมากมาย   ดื่มด่ำไปกับการหลบหนีอย่างฟุ่มเฟือย ณ สถานที่พักผ่อนบนเกาะอันเงียบสงบ หลับใหลไปกับเสียงเพลงอันเงียบสงบของมหาสมุทร หลังจากผ่อนคลายริมสระน้ำไร้ขอบมาทั้งวัน

และลิ้มรสผลงานชิ้นเอกอันเอร็ดอร่อย    สถานที่ท่องเที่ยวไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเหนือน้ำเท่านั้น แนวปะการังที่นี่เต็มไปด้วยปลาเขตร้อนหลากหลายชนิดและเป็นจุดดำน้ำที่ดีที่สุดในฟิลิปปินส์   

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของปาลาวันคืออุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งเป็นระบบถ้ำหินปูนที่น่าประทับใจพร้อมแม่น้ำใต้ดินที่ทอดยาว สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เหมาะแก่การเยี่ยมชมจากปูเวร์โตปรินเซซา

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    huaydeeplus

AI กำลังเปลี่ยนแปลงอนาคตของการทดสอบซอฟต์แวร์อย่างไร

 

ด้วยความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของ AI ผู้ทดสอบซอฟต์แวร์จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้เพื่อปรับปรุงงานของตนได้อย่างไร ในบทความนี้ เราจะสำรวจการใช้งาน AI ในปัจจุบันในการทดสอบซอฟต์แวร์และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความสามารถของคนทั่วไปในการมอบพลังของ AI

ไม่ใช่แนวคิดที่ถูกผลักไสให้อยู่แค่ในนิยายอีกต่อไป เป็นความจริงในปัจจุบันที่เริ่มมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทั่วโลกในโลกแห่งความเป็นจริง ChatGPT และหัวข้อที่คล้ายกัน เช่น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (หรือ LLM) กำลังกลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ได้ปรับเปลี่ยนชีวิตการทำงานของเรา

ในขอบเขตของการทดสอบซอฟต์แวร์ AI ถูกนำมาใช้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ AI จะบูมในปัจจุบัน

บริษัทต่างๆ เช่น Facebook และ Google ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในระบบบางส่วนของตนเพื่อช่วยในการประกันคุณภาพและวัตถุประสงค์ในการทดสอบอื่นๆ แต่ด้วยความสามารถในการเข้าถึงเครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างกว้างขวาง

ตอนนี้เราเพิ่งรู้ว่าเครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของนักพัฒนาและผู้ทดสอบ และเพิ่มคุณภาพของแอปพลิเคชันที่เราสร้างและทดสอบได้อย่างไร

ประโยชน์ของ AI ในการทดสอบซอฟต์แวร์ วิธีการทดสอบซอฟต์แวร์แบบเดิมมักอาศัยกิจกรรมที่ครอบคลุมและใช้เวลานาน การทดสอบด้วยตนเองต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในรูปแบบของบุคลากรและเวลาในการผ่านการทดสอบด้วยสคริปต์และเชิงสำรวจ

การทดสอบอัตโนมัติช่วยลดภาระบางส่วนที่ผู้ทดสอบด้วยตนเองต้องเผชิญ แต่ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างและบำรุงรักษาชุดการทดสอบที่เสถียร การจัดการกรณีทดสอบ ข้อผิดพลาดในการบันทึก และการดำเนินการอื่นๆ

จะเพิ่มงานที่จำเป็นในการตรวจสอบฟังก์ชันการทำงานของแอปพลิเคชัน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานตามที่คาดหวังและบรรลุความคาดหวังด้านคุณภาพ

AI สามารถเชื่อมช่องว่างกับปัญหาที่องค์กรต่างๆ เผชิญอยู่ในปัจจุบันจากการทดสอบซอฟต์แวร์ วิธีการทดสอบที่มีอยู่ เช่น การทดสอบเชิงสำรวจและการทดสอบอัตโนมัติ จะยังคงเป็นส่วนสำคัญของการประกันคุณภาพในซอฟต์แวร์

อย่างไรก็ตาม การเพิ่ม AI เข้าไปจะให้ประโยชน์ที่จะช่วยให้องค์กรและผู้ทดสอบซอฟต์แวร์สร้างซอฟต์แวร์คุณภาพสูงในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน การปรับปรุงบางอย่างที่เกิดขึ้นทันทีที่เราคาดว่าจะได้เห็น AI นำมาใช้ในการทดสอบซอฟต์แวร์ ได้แก่:

เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการดูแลงานที่ “น่าเบื่อ” ข้อดีประการหนึ่งของการทดสอบอัตโนมัติคือการขจัดงานที่ต้องทำซ้ำๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับผู้ทดสอบและช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานอื่นๆ ที่มีมูลค่าสูงได้

เครื่องมือและบริการที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะช่วยทำให้เราประหยัดเวลามากขึ้นโดยทำให้ส่วนที่ซ้ำซ้อนในงานของเราเป็นอัตโนมัติ (และในหลายกรณี งานที่น่าเบื่อหน่ายที่เราไม่ชอบทำ) มันจะช่วยให้ทีมสามารถปรับปรุงกระบวนการที่มีอยู่ แก้ไขข้อบกพร่องได้เร็วยิ่งขึ้น และปรับใช้ได้เร็วกว่าที่เคย เพราะพวกเขาไม่ต้องทำงานหนักกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    โอเล่777