จับแล้ว ผัวซาดิสต์ฆ่าเมีย แล้วหนีหาย

จากกรณีที่พบศพนางกมลา  หรือนางแดง นอนเปลือยกายเสียชีวิตภายในบ้านของตัวเอง ที่จังหวัดบุรีรัมย์  

จับแล้ว ผัวซาดิสต์ฆ่าเมีย ตำรวจตั้งเป้าไปที่สามีของนางแดง  ได้หนีหายไปตั้งแต่เกิดเหตุ ล่าสุดนี้ไม่รอดตำรวจได้จับกุมได้ที่จังหวัดนครราชสีมา นายเอก ผู้ต้องหายังอยู่ในอาการมึนเมา เล็กน้อย  สืบสวนยังให้การได้ดี แต่กลิ่นเหล้านี้คลุ้งเต็มตัว ได้หนีมาที่บ้านญาติที่โคราช ทำตัวปกติ และได้ขายซาเล้งพวงข้างไปแล้วเรียบร้อย หาเงินกินเหล้า  

เมื่อวันที่ 10 ก.ค 65  ที่ผ่านมา  จากการตรวจสอบศพแล้ว พบรอยช้ำทั้งร่างกาย แต่ไม่มีบาดแผล  ส่วนอวัยวะเพศมีร่อยรอยการมีเพศสัมพันธ์อีกด้วย  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายนิติพจน์  หรือดาว  ซึ่งเป็นสามีใหม่ของผู้ตาย มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและยังชอบในการดื่มสุราเป็นอย่างมาก   และได้มาอยู่กินกับผู้ตายแบบสามีภรรยาประมาณเกือบ 10  ปี 

ในที่สุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ของ สภ.พุทไธสง สามารถติดตามจับกุมตัวนายนิติพจน์ หรือ นายดาว ได้แล้วขณะที่หนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติที่  จ.นครราชสีมา  พร้อมรถจักรยานยนต์สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งได้ถอดซาเล้งออกขายเรียบร้อยแล้ว ขณะจับกุมนายนิติพจน์ได้นั้น ยังอยู่ในอาการมึนเมาอีกด้วย

  จากนั้นทางชุดจับกุมจึงได้นำตัวกลับมายัง สภ.พุทไธสง พื้นที่ที่เกิดเหตุ  จากที่ได้สอบสวนทางนายนิติพจน์ หรือนายแดง ผู้ต้องหาแล้วนั้น ให้การรับสารภาพทั้งหมดทุกคำกล่าวหา ว่าได้ลองมือก่อเหตุฆ่าภรรยาของตัวเองจริงด้วยการ ไม่มีอุปกรณ์หรืออาวุธใดๆเลย ใช้เพียงมือบีบที่คอจนขาดอากาศหายใจและตายในที่สุด

สาเหตุที่ก่อเหตุอ้างเหตุผลที่ว่าที่ฆ่าเพราะโมโหที่ภรรยาเมาแล้วชอบงี่เง่า งอแง พูดจาไม่รู้เรื่องและไม่เข้าหู ชวนให้หงุดหงิด  ซึ่งทางนายแดงเองนั้นตัวเองก็ดื่มและเมาเหมือนกันยอมรับว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับภรรยาจริงและได้ใช้ฟันกัดตามร่างกายของภรรยาของตนก่อนจะลงมือบีบคอจนเมียสิ้นใจ และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ไปตั้งหลักบ้านที่โคราชก่อน โดยได้ก่อเหตุตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. 65 วันที่ภรรยากลับมาจากกรุงเทพฯ พอภรรยาเสียชีวิตก็ตัดสินใจขับขี่รถจักรยานยนต์ซาเล้งหลบหนีไปบ้านแม่ที่ อ.นาโพธิ์ ก่อนไปถอดซาเล้งออกขาย

เพื่อนำไปซื้อเหล้าดื่มและใช้เติมน้ำมัน ขี่จักรยานยนต์หลบหนี   โดยได้ไปหลบที่บ้านญาติ จ.นครราชสีมา ก่อนจะถูกตำรวจตามรวบตัวได้ในที่สุด  ทาง พ.ต.อ.สมยศ ฟื้นชัยภูมิ ผกก. สภ.พุทไธสง กล่าวจากการสอบถามผู้ต้องหาแล้วเบื้องต้นยอมรับสารภาพหมดเปลือกว่าได้ก่อเหตุฆ่าภรรยาตัวเองจริง ส่วนรายละเอียดต้องรอพนักงานสอบสวนสอบปากคำอีกครั้ง เนื่องจากผู้ต้องหายังอยู่ในอาการมึนเมา ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วนจะแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    สล็อต ufabet เว็บตรง

ความในใจของพี่ชายเด็กหญิงวัย 14 ใจสลายเมื่อน้องร่วมมือกับแฟนหนุ่มฆ่าแม่

          เป็นเรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจของใครหลายคนเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะคงไม่มีใครคาดคิดว่ารูปสาวคนนึงที่แม่เฝ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่อยู่ในท้องและเลี้ยงดูจนเติบใหญ่จะอกตัญญูด้วยกันวางแผนฆ่าแม่ของตนเองและที่สำคัญการวางแผนในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเพราะท้ายที่สุดแล้วแม่ก็ถูกแทงไปถึงเจ็บแผลด้วยกันจนเสียชีวิต

      นอกจากนี้ลูกสาวที่แม่รักนักหนายังได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสาเหตุที่ฆ่าแม่ของตนเองนั้นไม่พอใจที่แม่ของตนเองนั้นกีดกันไม่ให้คบกับแฟนหนุ่มและอยากออกไปจากบ้านที่อยู่อาศัยไปใช้ชีวิตกับแฟนหนุ่มของตนเองซึ่งเรื่องนี้ใครที่ได้ฟังเรื่องราวของเด็กสาววัย 14 ปีซึ่งเป็นฆาตกรฆ่าแม่ของตนเองนั้นก็คงไม่คาดคิดว่าจะมีเด็กที่คิดทำร้ายแม่ของตนเองได้ถึงขนาดนี้

       อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังมีพี่ชายของเด็กสาววัย 14 ปีที่ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกของตนเอง    น้องร่วมมือกับแฟนหนุ่มฆ่าแม่   หลังจากที่ต้องสูญเสียแม่ของตนเองไปในขณะเดียวกันน้องสาวเพียงคนเดียวก็ต้องติดคุกโดยชายหนุ่มนั้นได้เล่าข้อมูลว่าพวกเขานั้นอยู่ด้วยกัน 3 คนซึ่งในตอนที่พี่ชายยังเป็นเด็กนั้นจำเป็นที่จะต้องหยุดเรียนตั้งแต่ตอนอยู่ชั้นป. 3 เพียงเท่านั้นเหตุผลก็เพราะว่าเขาต้องออกมาเลี้ยงน้องเนื่องจากต้องให้แม่นั้นไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเพราะไม่มีพ่อคอยดูแล 

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่พี่ชายนั้นโตขึ้นมาและสามารถที่จะออกไปหางานทำได้แล้วเขาจึงปล่อยให้แม่อยู่บ้านเพื่อดูแลน้องสาวและตัวเขาเองนั้นก็ได้ออกไปหางานทำหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวซึ่งตัวพี่ชายระบุว่าเขาไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วครอบครัวของเขานั้นจะพังพินาศลงเหลือตัวเขาแพงแค่คนเดียวเท่านั้นและเขาไม่เคยคิดเลยว่าน้องสาวของเขานั้นจะสามารถวางแผนฆ่าแม่ของตนเองได้นอกจากนี้ตัวพี่ชายเองยังมีความมั่นใจว่าเหตุการณ์วางแผนการฆ่าแม่เสียชีวิตในครั้งนี้นั้นน้องสาวของเขาไม่น่าจะเป็นคนที่วางแผนเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นแต่น่าจะมีแฟนหนุ่มคอยสนับสนุนจึงทำให้น้องสาวของเขานั้นทำสิ่งที่ไม่สมควรทำออกมา

        อย่างไรก็ตามพี่ชายของเด็กหญิงวัย 14 ปีที่เป็นฆาตกรยังให้ข้อมูลกับนักข่าวด้วยว่าทุกวันนี้เขายังคงเสียใจ  gclub    กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะตอนนี้เขาเหลือตัวเพียงคนเดียวเท่านั้นนอกจากว่าแม่ก็ตายแล้วและตัวน้องสาวของเขาก็ต้องติดคุกโดยในขณะนี้เขายังคงไม่สามารถให้อภัยน้องสาวของเขาได้แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารถทอดทิ้งน้องสาวของเขาได้เช่นเดียวกันเพราะตั้งแต่เขาจำความได้เขาก็มีแม่และน้องสาวของเขามาในชีวิตโดยตลอด

หนุ่มหอบร่างโชกเลือดขึ้นโรงพักแจ้งความหลังถูกเพื่อนสมัยมัธยมเคาะห้องแล้วแทง 

       หนุ่มหอบร่างโชกเลือดขึ้นโรงพัก เมื่อวันที่ 30 เดือนมกราคม ปีพ.ศ. 2565 ช่วงเวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง  ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สนสำเหร่ปรากฏว่าได้มีชายอายุประมาณ 20 ปีเดินขึ้นมาบนโรงพักด้วยสภาพร่างกายโชกเลือดเต็มไปหมดและมีมือกุมบาดแผลที่บริเวณหน้าท้องเอาไว้

หลังจากนั้นก็ขอแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ว่าถูกเพื่อนเก่าของตนเองซึ่งเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยมบุกเข้ามาทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดแทงบริเวณที่หน้าท้องจนได้รับบาดเจ็บเมื่อเพื่อนแทงเสร็จแล้วก็วิ่งหนีหายไป

        สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ผู้บาดเจ็บระบุว่าสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นแฟลตตำรวจที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของสนสำเหร่พักอาศัยอยู่ส่วนห้องที่เกิดเหตุนั้นก็เป็นห้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจรอยศร้อยตำรวจเอกท่านหนึ่งเนื่องจากว่าผู้บาดเจ็บได้เดินทางมาหาแฟนสาวซึ่งเป็นลูกสาวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อาศัยอยู่ในแฟลตดังกล่าว  โดยระหว่างที่ทั้งคู่กำลังอยู่ภายในห้องด้วยกันนั้น  ปรากฏว่ามีคนมาเคาะห้องเมื่อผู้บาดเจ็บเดินไปเปิดประตูอยู่ๆก็มีหมัดพุ่งเข้ามาชกที่บริเวณใบหน้า เมื่อมองดูก็รู้ว่าเป็นเพื่อนสมัยมัธยมซึ่งรู้จักกันเป็นอย่างดี

       หลังจากชกเสร็จเรียบร้อยผู้ก่อเหตุก็ใช้อาวุธมีดที่พกมาแทงบริเวณที่ท้องเมื่อแทงเสร็จแล้วก็วิ่งหนีออกจากแฟลตตำรวจไปทันทีซึ่งทางผู้บาดเจ็บยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตัวเขาและคนก่อเรื่องนั้นไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อนซึ่งตัวเขาเองนั้นยังรู้สึก งง เป็นอย่างมากเลยทีเดียวที่เพื่อนมาเคาะประตูห้องหลังจากนั้นก็มาชก  เนื่องจากเห็นว่าสถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่ใกล้กับ สน. จึงรีบมาแจ้งความก่อนที่จะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล 

        สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นผู้บาดเจ็บ ระบุว่าชื่อนายปรมินทร์   ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้เรียบร้อยแล้วกำลังเร่งติดตามตัวนายประเมินเพื่อทำการสอบปากคำเพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าการก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงกันในครั้งนี้น่าจะต้องมีเรื่องราวอะไรกันมาก่อนอย่างแน่นอนเพียงแต่ว่าผู้บาดเจ็บอาจจะยังไม่ยอมเปิดเผยความจริงดังนั้นถ้าหากได้ตัวผู้กระทำความผิดมาเรื่องราวน่าจะคลี่คลายได้

     อย่างไรก็ตามเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำแฟนสาวของผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าหน้าที่ตำรวจยศร้อยตำรวจเอกนั้นเธอยืนยันว่าเธอไม่ได้รู้เรื่องว่าแฟนหนุ่มของเธอกับผู้ก่อเหตุนั้นมีเรื่องทะเลาะวิวาทอะไรกันแต่เคยเห็นว่าทางผู้ก่อเหตุเคยนำกระดาษที่เขียนของครูเอาไว้ว่าจะทำร้ายร่างกายแฟนหนุ่มของเธอมาติดไว้ที่บริเวณรถของแฟนหนุ่มของเธอ

       อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าห้องที่เกิดเหตุนั้นจะเป็นแฟลตตำรวจและเป็นห้องพักของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ในช่วงเกิดเหตุนั้นเจ้าของห้องซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้อยู่ในห้องหลังจากที่ตรวจสอบสภาพห้องเรียบร้อยแล้วไม่พบร่องรอยทรัพย์สินสูญหายแต่อย่างใดจึงไม่ได้มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องของทรัพย์สินสูญหายหรือทรัพย์สินถูกทำลายเพียงแค่ต้องติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไปนั่นเอง 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย     UFABET เว็บหลัก

เพจดังแฉคลิปพนักงานชาย แอบเข้าไปถ่ายภาพในห้องน้ำของเพื่อนร่วมงานผู้หญิง 

       เพจอยากดังได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอซึ่งถูกระบุว่าเป็นการกระทำของพนักงานชายคนหนึ่งซึ่งเป็นพนักงานในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

โดยเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เดือนตุลาคมปีพศ 2564 ในคลิปจะเห็นได้ว่าตรงบริเวณประตูทางเข้าห้องน้ำของพนักงานได้มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้าห้องน้ำไปหลังจากนั้นก็มีผู้ชายเดินตามเข้าไปและเพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้นผู้ชายก็วิ่งออกมาในขณะที่วิ่งกันก็มีสวนทางกับพนักงานผู้หญิงคนอื่นๆแต่ก็ไม่มีใครสนใจอะไรและในภาพก็ยังจับได้ว่ามีพนักงานผู้หญิงวิ่งออกมาหน้าตาเลิกลั๊ก

        ซึ่งแน่นอนว่ามันมีแค่เพียงแค่ภาพแต่ไม่มีเสียงทำให้ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคือเรื่องราวแบบไหนโดยทางเพจอยากดังนั้นได้มีการระบุว่าคลิปนี้ได้รับการส่งมาจากพนักงานผู้หญิงรายหนึ่งที่ทำงานในห้างสรรพสินค้าเธอระบุว่าตัวเธอนั้นเข้าห้องน้ำและผู้ชายในคลิปก็เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอเองได้เดินตามเข้าไปในห้องน้ำแล้วไปอาบถ่ายภาพในขณะที่เธอกำลังเข้าห้องน้ำอยู่

       ซึ่งบังเอิญว่าเธอจับได้พนักงานชายคนดังกล่าวจึงได้วิ่งหลบหนีไปซึ่งเรื่องนี้เธอนั้นได้ไปขอกล้องวงจรปิดของทางห้างมาทำการตรวจสอบและพบว่าพนักงานผู้ชายคนดังกล่าวนั้นเป็นคนที่พูดคุยกับเธอทุกวันและสนิทสนมกับเธอมากซึ่งเธอรู้สึกเสียใจกับการกระทำของพนักงานคนนี้เป็นอย่างมากพร้อมกันนี้เธอมองว่าการกระทำของพนักงานชายคนนี้เป็นการตัดอนาคตของตนเองเพราะเธอจะต้องแจ้งความดำเนินคดีอย่างแน่นอนซึ่งเบื้องต้นเธอได้แจ้งหัวหน้างานและนำคลิปวิดีโอดังกล่าวให้หัวหน้างานดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  

      อย่างไรก็ตามในสังคมไทยนั้นเรามักจะเห็นข่าวพวกโรคจิตชอบแอบถ่ายในห้องน้ำเป็นประจำ  สมัครยูฟ่าเบท365   โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องน้ำในห้างสรรพสินค้าหรือตามปั๊มน้ำมันซึ่งครั้งนี้เป็นห้องน้ำในที่ทำงานควรจะเป็นที่ที่ปลอดภัยเพราะเพื่อนร่วมงานก็เจอหน้ากันทุกวันแต่กลับกลายเป็นว่าสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ปลอดภัยเช่นเดียวกัน

         ดังนั้นคลิปนี้จึงสามารถเตือนภัยให้กับสาวๆที่ไปใช้บริการในห้องน้ำให้ระมัดระวังคอยสังเกตตรวจตราให้ดีแต่อันที่จริงแล้วคลิปแอบถ่ายนั้นพวกโรคจิตไม่ได้แอบถ่ายเฉพาะผู้หญิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเพราะมีหลายครั้งที่ผู้ชายก็ถูกแอบถ่ายเช่นเดียวกันและหลายครั้งที่พวกโรคจิตก็ถูกจับได้และถูกนำมาประจานผ่านทางสื่อต่างๆแต่เหตุการณ์แบบนี้ก็ยังเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ   

   สำหรับชายโรคจิตในคลิปนั้น นอกจากจะถูกตำรวจจับแล้ว อนาคตยังต้องดับวูบและหางานใหม่ทำยากอย่างแน่นอน

สาวไปทำงานดูไบ อยากกลับบ้านแต่กลับไม่ได้เพราะถูกนายจ้างยึดพาสปอร์ต หากจะกลับต้องเสียค่าดำเนินการ 50,000 บาท 

           เมื่อวันที่ 2 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2564   สาวไปทำงานดูไบ โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการอัดคลิปแล้วโพสต์ลง Facebook ส่วนตัวโดยในคลิปนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวร้องไห้และบอกเล่าปัญหาของตนเองว่าในขณะนี้เธอเจอปัญหาว่าเธอนั้นอยากกลับประเทศไทยแต่ไม่สามารถกลับได้โดยระบุว่าเธอเดินทางมา ที่ประเทศดูไบด้วยวีซ่าการท่องเที่ยวแต่ที่จริงแล้วเธอต้องการมาทำงานที่ประเทศดูไบโดยงานของเธอนั้นก็คือทำอยู่ร้านทำเล็บ

         ซึ่งตามสัญญา  สาวไปทำงานดูไบ  ที่เธอตกลงไว้กับทางด้านเจ้าของร้านเธอจะได้รับเงินเดือนประมาณ 2,500 เดอร์แฮม นอกจากนี้เธอยังได้มีที่พักฟรีและยังมีอาหารฟรีอีกด้วยเธอจึงตัดสินใจที่จะมาทำงานที่นี่โดยนายจ้างระบุว่าจะมีการเปลี่ยนวีซ่าการท่องเที่ยวเป็นวีซ่าทำงานให้ภายหลัง  โดยหญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่าตนเองนั้นเดินทางมาทำงานที่ประเทศดูไบตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ 2564 แล้ว  

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอเดินทางมาที่ประเทศดูไบแล้วกลับไม่เป็นไปอย่างที่นายจ้างได้มีการพูดคุยกันเอาไว้เพราะห้องพักที่บอกว่าฟรีนั้นก็เป็นห้องพักรวมซึ่งมีคนอาศัยอยู่ในห้องเดียวกันนั้นเยอะมากเรียกได้ว่าแออัดมากและห้องน้ำก็มีอยู่ห้องเดียวนอกจากนี้อาหารฟรีก็เป็นเพียงแค่กับข้าวอย่างเดียวเท่านั้นกับข้าวต้องเสียค่าใช้จ่ายเองและเมื่อไม่นานมานี้เธอถูกนายจ้างไล่ออกโดยนายจ้างอ้างว่าเธอทำงานไม่เต็มที่ที่สำคัญยังหาว่าเธอแอบสูบบุหรี่ทั้งที่เธอไม่ได้สูบ

          ซึ่งเธอนั้นต้องการที่จะกลับบ้านที่ประเทศไทยแต่ปรากฏว่านายจ้างไม่ยอมคืน พาสปอร์ตให้กับเธอทำให้เธอไม่สามารถเดินทางกลับไทยได้โดยนายจ้างระบุว่าถ้าหากเธออยากได้พาสปอร์ตคืนจะต้องหาเงินไปจ่ายให้กับนายจ้าง 50,000 บาท ซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่าเธอไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นซึ่งหลังจากที่เธอพูดคุยตกลงกับนายจ้างไม่ได้เธอจึงได้มีการติดต่อสถานกงสุลประจำประเทศดูไบแต่ว่าผ่านไปหลายวันแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้าซึ่งในขณะนี้เธอได้เช่าโรงแรมอาศัยอยู่ทำให้เธอนั้นมีค่าใช้จ่ายในแต่ละวันเยอะมาก

      ซึ่งในขณะนี้เงินที่เธอเก็บไว้งั้นกำลังร่อยหรอเธอจึงอยากขอความช่วยเหลือสถานทูตของไทยให้ช่วยประสานงานให้เธอเพื่อให้เธอนั้นได้กลับบ้าน  อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องนี้ทางด้านสถานกงสุลได้มีการแนะนำให้เธอนั้นร้องเรียนไปที่กระทรวงแรงงานฟูไจราห์  เพื่อยื่นร้องเรียนนายจ้างถ้าหากว่านายจ้างทำผิดตามกฎหมายจริงซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะมีหน่วยงานไหนช่วยเหลือหญิงสาวคนดังกล่าวให้เดินทางกลับมาประเทศไทยได้หรือไม่ในตอนนี้ 

 

สนับสนุนโดย  gclubฟรี500

น้องสาว อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเสียชีวิตจากการไปดูดไขมันที่คลินิกดังย่านรามคำแหง 

           เมื่อวันที่ 20 เดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2564  ช่วงเวลาประมาณเที่ยงได้มีหญิงวัย 54 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตขณะที่กำลังเข้ารับการดูดไขมันที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ  โดยผู้เสียชีวิตจากการดูดไขมันในครั้งนี้นั้นเป็นถึงน้องสาวของอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดของจังหวัดนครศรีธรรมราช  เธอชื่อว่านางศรัณย์ภัทร  ซึ่งเธอนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองได้มีการไปทำการดูดไขมันที่คลินิกดังแห่งหนึ่งซึ่งเปิดอยู่แถวบริเวณย่านรามคำแหง

         สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ลูกชายของนางศรัณย์ภัทรได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า   แม่ของตนเองนั้นเป็นคนที่ชื่นชอบเกี่ยวกับเรื่องของความสวยความงามเป็นปกติอยู่แล้วและก่อนที่จะเดินทางไปคลินิกที่เป็นสถานที่เกิดเหตุนั้นคุณแม่ของเขาได้มีการปรึกษากับคุณหมอหลายคลินิกรวมถึงคุณหมอจากโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งแต่ท้ายที่สุดแล้วก็เลือกที่คลินิกแห่งนี้

          โดยคุณแม่มีกำหนดการดูดไขมันตั้งแต่ 10:00 น และจะเสร็จตอนประมาณ 14:00 น ตรงซึ่งนางสาวนันท์นภัสได้มีการนัดแนะให้ลูกสาวคนโตขับรถมารับที่คลินิกหลังจากที่ดูดไขมันเสร็จอีกด้วย  อย่างไรก็ตามลูกชายของนางศรัณย์ภัทรเล่าให้ฟังว่ายังไม่ถึง 14:00 น เป็นช่วงเวลาประมาณ 13:19 น เท่านั้นเจ้าหน้าที่ของคลินิกที่แม่ของเขาไปทำศัลยกรรมก็โทรติดต่อมา

                โดยแจ้งว่าแม่ของเขาเกิดอาการช็อคและหัวใจหยุดเต้นซึ่งขณะนี้ได้ทำ CPR แล้วแต่ยังไม่ฟื้นซึ่งตัวเขาเองก็ได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่ของคลินิกให้ช่วยส่งแม่ไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลแต่ทางคลินิกปฏิเสธโดยให้เหตุผลในการที่ไม่ส่งผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นและทางคลินิกมั่นใจว่าในขณะนี้แม่ของเขาได้เสียชีวิตแล้วซึ่งน่าจะ 90% แล้วที่เสียชีวิตไป 

           เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ยอมส่งไม่ได้เข้าไปโรงพยาบาลดังนั้นเขาจึงรีบโทรไปหาพี่สาวซึ่งอยู่ใกล้แม่มากที่สุดให้ไปช่วยดูอาการของแม่แต่เมื่อพี่สาวไปถึงก็พบว่าแม่ตัวแข็งและตัวเย็นเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งนั่นหมายถึงว่าแม่เขาเสียชีวิตแล้วนั่นเองโดยพี่สาวของเขายืนยันว่าไปถึงหลังจากที่เขาโทรตามพี่สาวเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้นซึ่งแสดงว่าแม่ของเขานะเสียชีวิตไปก่อนที่เจ้าหน้าที่คลีนิคจะโทรมาแจ้งเขานานแล้วเพราะไม่เช่นนั้นแม่จะไม่ตัวแข็งนั่นเอง

       อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นครอบครัวของนางศรัณย์ภัทรยืนยันที่จะเอาผิดคลินิกดังกล่าวให้ถึงที่สุดเนื่องจากว่าปฏิเสธการส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลเพราะทางด้านครอบครัวของนางศรัณย์ภัทรมองว่าถ้าหากคลินิกส่งตัวนางศรัณย์ภัทรไปรักษาที่โรงพยาบาลอาจไม่ถึงแก่ความตายก็เป็นไปได้ 

 

สนับสนุนโดย.  sagame