วัดเลขธรรมกิตติ์  จังหวัดนครนายก

          วัดเลขธรรมกิตติ์  ที่อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก มีวัดแห่งหนึ่งซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มีอายุเกือบ 200 ปีแล้วด้วยวัดแห่งนี้มีเอกลักษณ์พิเศษตรงที่ว่าบริเวณตรงซุ้มประตูทางเข้าของวัดนั้นจะมีกำแพงซึ่งเป็นทราบราคาพังเหลือไว้บางส่วนโดยเหลือตรงส่วนที่เป็นประตูทางเข้า

ซึ่งตรงนี้จะมีรากของต้นโพธิ์ต้นใหญ่พันเกลียววัดกำแพงเอาไว้เป็นการป้องกันไม่ให้กำแพงล้มซึ่งตรงจุดนี้เองที่เป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมความงดงามของสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยวัดแห่งนี้มีชื่อเรียกว่าวัดเลขธรรมกิตติ์ 

         ชาวบ้านบอกว่าแต่เดิมวัดแห่งนี้ไม่ใช่ชื่อวัดเลขธรรมกิตติ์เพิ่งมามีการเปลี่ยนเป็นชื่อ วัดเลขธรรมกิตติ์  เมื่อปีพศ 2490 โดยพระครูศรัทธาภินันท์เป็นผู้ดำเนินการเปลี่ยนเพราะแต่เดิมนั้นวัดแห่งนี้มีชื่อเรียกว่าวัดบางอ้อนอก  แต่ที่พระครูศรัทธาภินันท์มีการเปลี่ยนมาเป็นวัดเลขธรรมกิตติ์นั่นก็เพราะว่าวัดแห่งนี้นั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ท่าน

เคยเสด็จมาพร้อมกับพระโอรสของพระองค์โดยทั้งสองพระองค์นั้นได้มีการเสด็จลงเรือและได้มีการขึ้นมาแวะพักเพื่อเสวยพระกระยาหารและพักผ่อนที่วัดแห่งนี้ดังนั้นท่านพระครูศรัทธาภินันท์จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อวัดแห่งนี้ใหม่เพื่อเป็นเกียรติแก่ตัววัดที่ครั้งหนึ่งเคยได้ต้อนรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระโอรสนั่นเอง

       สำหรับชื่อวัดเลขธรรมกิตติ์นั้นมีความหมายซึ่งแปลตรงตัวว่าวัดที่มีเกียรติดังนั้นจึงเหมาะกับวัดที่ได้มีโอกาสต้อนรับรัชกาลที่ 5 กับพระโอรสของพระองค์โดยวัดแห่งนี้นอกจากจะเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาในช่วงปลายของกรุงศรีอยุธยาแล้วภายในพื้นที่บริเวณวัดยังมีความสวยงามและเงียบสงบร่มเย็นอีกด้วย

  นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมความสวยงามและความเก่าแก่ของวัดเลขธรรมกิจแห่งนี้นั้นมักจะมาถ่ายรูปตรงบริเวณซุ้มประตูโบราณแห่งนี้เพราะมีความสวยงามและดูอัศจรรย์ตรงที่มีรากของต้นไทรพันเกี่ยวเอาไว้และยังมีบานประตู 2 บานที่เปิดเอาไว้เป็นมุมสำหรับถ่ายรูปสวยๆเก๋ๆอีกด้วย

           นอกจากนี้ภายในวัดยังมีศาลาขนาดเล็กรวมถึงโบสถ์ซึ่งได้มีการนำพระพุทธรูปมาประดิษฐ์ฐานเอาไว้เพื่อให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพรอะไรก็ตามสำหรับวัดเลขธรรมกิตติ์นั้นไม่ใช่วัดขนาดใหญ่มากนักดังนั้นจึงใช้ระยะเวลาไม่นานในการที่จะเดินถ่ายรูปตามมุมต่างๆภายในวัดและกราบไหว้พระพุทธรูปเพื่อขอพรดังนั้นเราสามารถแวะเที่ยวที่วัดเลขธรรมกิตติ์แห่งนี้และสามารถไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับวัดนี้ได้ 

       หากนักท่องเที่ยวชอบธรรมชาติและสถาปัตยกรรมจากธรรมชาติ แนะนำมาเที่ยวที่วัดแห่งนี้กันค่ะ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    UFABET เว็บหลัก

สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณรู้จักแล้วคงไม่อยากไปอย่างแน่นอน

สถานที่ท่องเที่ยวบางสถานที่ก็น่ากลัวจนเกินไปหรืออันตรายจนเกินไปซึ่งเราเชื่อว่าคุณสามารถที่จะเดินทางไปที่ไหนบนโลกแห่งนี้ก็ได้ถ้าหากคุณมีอุปกรณ์  สถานที่ท่องเที่ยวไม่อยากไปอย่างแน่นอน และเงินเพียงพอในการเดินทางแต่ว่าบางสถานที่มันก็ไม่ควรไปหรือเปล่าเพราะว่ามันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ตัวคุณเอง 

ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนที่กล้าผจญภัยเผชิญอะไรต่างๆนานาแต่ว่าในบางสถานที่บางสิ่งก็ไม่ควรไปเพราะว่ามันเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายกับคุณมากซึ่งถ้าหากเราไปเที่ยวและพบกับความสนุกสนานก็ควรที่จะไป แต่ว่ารักสถานที่ที่เดินทางไปแล้วมันเป็นอันตรายจนเกินไปเราก็ไม่ควรจริงไหมล่ะ 

 

ดังนั้นในวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าสถานที่ไหนบ้างที่เราไม่ควรจะไปแบบเด็ดขาดซึ่งถ้าหากคุณไปแล้วอาจจะเป็นการก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าความสนุกสนานหรือการผจญภัยไปอีกโดยสถานที่ต่างๆเหล่านั้นมีดังต่อไปนี้

เชอร์โนบิล ประเทศยูเครน 

เชื่อกันว่าภัยพิบัติเชอร์โนบิลที่เกิดขึ้นจากการที่วิศวกรได้ทำการทดสอบเกี่ยวกับการทำงานของระบบที่เป็นหล่อเย็นเห็นได้ว่าการทดสอบทั้งนั้นเกิดความล่าช้าจึงทำให้ก่อเกิดแรงดันน้ำที่มีค่อนข้างสูงโดยได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันซึ่งทำให้ระบบการตัดสินงานอย่างอัตโนมัตินั้นไม่ก่อให้เกิดการทำงาน 

จึงเป็นเหตุส่งผลทำให้ เกิดความร้อนที่สูงมากขึ้น จนทำให้เกิดแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่เป็นหมายเลข 4 ได้ทำการหลอมละลาย และได้เกิดระบบขึ้นในทันที ห้องเช้ามืดในวันที่ 26 เมษายน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นปี 1986 ซึ่งจะเห็นได้ว่าผลจากการที่มันระเบิดนั้น จะก่อให้เกิดเป็นที่เท่าที่มีการปนเปื้อนกับ กัมมันตภาพรังสี ทำให้ควันพวยพุ่งขึ้นสู่อากาศด้านบน อยู่ระยะยาวนานถึง 10 วันได้ 

จึงเป็นการทำให้ขี้เถ้าได้ทำการปกคลุมทางตะวันตกของโซเวียตและยังปกคลุมไปทางยุโรปตะวันออก ยุโรปตะวันตก และยุโรปเหนือหรือพื้นที่มากกว่า 2 แสนตารางกิโลเมตร โดยทำการครอบคลุมพื้นที่ 71% ของประเทศเบลารุส รัสเซีย และยูเครน สาเหตุที่ทำให้เกิดการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสี จึงส่งผลทำให้ทางการของทั้งสามประเทศนี้ ได้ทำการอพยพประชาชนของพวกเขา 

ซึ่งผลที่รวมออกมาได้น่าจะเกิน 330,000 คน โดยทำการไปตั้งถิ่นฐานสถานที่แห่งใหม่ ในขณะที่มีพื้นที่รัศมีที่อยู่ที่ 30 กิโลเมตร โดยอยู่รอบโรงไฟฟ้าของเชอร์โนบิลนั้นได้ทำการถูกประกาศให้เป็นพื้นที่และเขตอันตรายซึ่งสาเหตุที่มีการระเบิดในครั้งนี้ส่งผลทำให้มีผู้ที่เสียชีวิตในทันทีหลังจากที่มีเหตุการณ์ระเบิดทั้งนั้นจำนวน 31 คนซึ่งคนเหล่านั้นเป็นพนักงานหรือคนงานที่อยู่ในโรงงานไฟฟ้าเชอร์โนบิลเองหลังจากนั้นก็ได้มีผู้คนที่ได้ทำการระบุว่า ในอนาคตอาจจะมีผู้ที่เสียชีวิตจาก โรคมะเร็งที่ทำการเกี่ยวข้องกับ กัมมันตภาพรังสีอีกมากกว่า จำนวน 40 คนอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ufabet ฝากเงิน ออโต้

เกาะรอกจังหวัดกระบี่ 

         เกาะรอกจังหวัดกระบี่   ในเขตพื้นที่รอยต่อระหว่างสองจังหวัดอันได้แก่จังหวัดตรังกับจังหวัดกระบี่ท้องทะเลตรงพื้นที่รอยต่อตรงนี้นั้นจะมีเกาะแห่งหนึ่งซึ่งเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากโดยเกาะดังกล่าวนั้นมีชื่อว่าเกาะรอกด้วยเกาะแห่งนี้นั้นนักท่องเที่ยวที่เคยมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่เกาะรอกต่างก็พูดถึงความสวยงามของเกาะแห่งนี้กันมากจนได้มีการตั้งชื่อเกาะแห่งนี้อีกชื่อหนึ่งซึ่งชื่อนี้ถูกเรียกว่าราชินีแห่งอันดามัน

         บนเกาะนั้นจะมีต้นไม้ขนาดใหญ่เต็มไปหมดและมีเนินเขาเตี้ยๆในขณะที่บริเวณชายหาดนั้นจะเป็นหาดสีขาวสะอาดนวลตาเป็นทรายเม็ดละเอียดน้ำทะเลนั้นก็ใสมากจนมองเห็นใต้น้ำได้มองดูแล้วเหมือนมองกระจกใสๆกันเลยทีเดียวและที่เกาะแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านซึ่งทหารนักท่องเที่ยวคนไหนชอบเที่ยวแบบความเป็นส่วนตัวชอบบรรยากาศที่เงียบสงบ

          แนะนำว่าให้แวะมาที่จังหวัดกระบี่แล้วลองแวะมาเที่ยวที่เกาะรอกดู รับรองว่าจะถูกใจกับบรรยากาศและความสวยงามของเกาะแห่งนี้อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามบนเกาะรอกนั้นมีสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถไปชมวิวได้อย่างเช่นที่ตรงบริเวณอ่าวโค้งซึ่งตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก

โดยลักษณะของจุดชมวิวที่เอาโค้กนั้นมีการว่ากันว่ามันมีความโค้งเหมือนกับเกือกม้าเลยทีเดียวในขณะเดียวกันนั้นความละเอียดของทรายก็ทำให้พื้นทรายนั้นเวลาที่เราถอดรองเท้าเหยียบใส่แล้วจะรู้สึกถึงความนุ่มของทรายมากเลยทีเดียว

    อย่างไรก็ตามที่เกาะแห่งนี้ยังมีข่าวอีกเจ้าหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้กับเข่าโค้งนั่นก็คืออ่าวมั่นใจนั่นเองที่นี่นักท่องเที่ยวที่อยากดูปะการังแต่ไม่อยากดำน้ำสามารถเดินทางมาดูปะการังน้ำตื้นได้หรือถ้าหากใครอยากจะดำน้ำดูแนวปะการังน้ำลึกก็จะมีจุดดำน้ำที่ดีๆที่เมื่อดำลงไปแล้วจะเห็นดอกไม้ทะเลและปะการังแหวกว่ายอยู่ในท้องทะเลเต็มไปหมด

   ที่สำคัญที่เกาะแห่งนี้นั้นรอบๆเกาะหากนักท่องเที่ยวโชคดีอาจจะได้เห็นปลานีโม่มาว่ายน้ำอยู่ใกล้กับแนวปะการังก็ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไหนที่เคยไปทางไปเที่ยวที่เกาะแห่งนี้แล้วไม่เคยปฏิเสธได้เลยว่าที่นี่นั้นสวยงามและส่วนใหญ่ที่ใครเคยไปเที่ยวแล้วก็จะหลงรักที่นี่กันทุกคน 

         อย่างไรก็ตามถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะไปเดินทางไปเที่ยวที่เกาะรอกนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงที่จังหวัดกระบี่แล้วนักท่องเที่ยวจะต้องไปยังจุดตรงบริเวณท่าเรือปากเมงหรือไม่ก็ต้องเป็นบริเวณท่าเรือบ้านหาดยาวซึ่งทั้งสองท่าเรือนี้จะมีชาวบ้านเปิดให้เช่าเรือเหมาลำเพื่อพาไปยังเกาะรอกอีกทีนึงซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

พระราชวังเคนซิงตัน แห่งกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ 

        ในอดีตนั้นประเทศอังกฤษมีการปกครองภายใต้การดูแลของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ต่างๆซึ่งปัจจุบันนั้นมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาอยู่ภายใต้ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยทั้งหมดแต่เชื้อพระวงศ์ก็ยังคงได้รับความสำคัญ พระราชวังเคนซิงตัน และได้รับความเคารพจากประชาชนชาวอังกฤษเช่นเดิมอย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าในสมัยก่อนนั้นมีเหล่าบรรดาเชื้อพระวงศ์ต่างๆหรือแม้แต่กระสัตว์ค่อนข้างเยอะมากในราชวงศ์อังกฤษทำให้ที่ประเทศอังกฤษนั้นจึงมีการสร้างพระราชวังเอาไว้อย่างมากมายซึ่งพระราชวังในประเทศอังกฤษมีก็คือบ้านที่กษัตริย์หรือเจ้าชายต่างๆใช้อยู่อาศัยนั้นเอง

       สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศอังกฤษนั้นเราจะเห็นได้ว่าเวลาที่เราเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอังกฤษสถานที่ท่องเที่ยวที่เรามักจะเดินทางไปเที่ยวกันก็คือพระราชวังซึ่งในประเทศอังกฤษนั้นมีพระราชวังเยอะมากและหนึ่งในพระราชวังที่เราจะแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้ก็คือพระราชวังเค็นซิงตันนั่นเอง  ที่นี่แต่เดิมนั้นเป็นเพียงแค่วิลล่าขนาดเล็กธรรมดาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก่อนที่จะมีการปรับปรุงขยายใหญ่ขึ้นจนกลายมาเป็นพระราชวังในที่สุด

        สำหรับพระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ พระราชวังเคนซิงตัน หลายต่อหลายคนด้วยกันไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 3 และพระนางแมรี่ที่ 2 หรือแม้แต่สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียซึ่งในตอนที่พระองค์ยังคงเป็นเด็กเล็กๆนั้นพระองค์เคยประทับอยู่ที่นี่หลังจากเมื่อโตขึ้นพระองค์ถึงย้ายไปประทับที่พระราชวังบัคกิ้งแฮมนอกจากนี้ยังมีเจ้าหญิงไดอาน่ารวมถึงเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตก็เคยมาประทับอยู่ที่พระราชวังเคนซิงตันเช่นเดียวกัน 

      อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีพระราชวังเค็นซิงตันยังคงกลายเป็นที่ประทับของพระราชวงศ์อังกฤษอยู่เช่นเดิมซึ่งปราสาทองค์ปัจจุบันที่ได้พักอยู่ที่พระราชวังแห่งนี้ก็คือเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าหญิงเคทรวมถึงพระโอรสและพระธิดาของพระองค์ของทั้งสองพระองค์นั้นเอง 

        สำหรับพระราชวังเคนซิงตันนั้นเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมความงดงามภายในได้โดยจะมีการเปิดเฉพาะบางพื้นที่หรือบางส่วนเท่านั้นซึ่งจะเห็นได้ว่าด้านในพระราชวังนั้นมีความโอ่อ่าหรูหราและที่สำคัญงดงามเป็นอย่างมากเพราะมีการตกแต่งเอาไว้ ด้วยเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นที่ไม่ธรรมดานอกจากนี้ยังมีการนำประติมากรรมต่างๆที่มีความงดงามจากทั่วโลกมาประดับตกแต่งทำให้พระราชวังแห่งนี้งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลยทีเดียว

 อย่างไรก็ตามหากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวที่พระราชวังแห่งนี้จะมีโซนที่มีการนำเสื้อผ้าเครื่องประดับของเจ้าหญิงไดอาน่ามาจัดแสดงเอาไว้ภายในพระราชวังแห่งนี้ด้วย  นอกจากนี้บริเวณด้านนอกของพระราชวังนั้นก็มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรือบ่อน้ำรวมถึงหินทางเดินและน้ำพุมีการจัดสรรเอาไว้อย่างลงตัว     

 

สนับสนุนโดย.  สมัคร Gclub