ข้อควร รู้หากจะไปเที่ยว เกาะหมาก จังหวัดตราด 

    เกาะหมาก จังหวัดตราด มีเกาะมากมายเต็มไปหมดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเพลินซึ่งหนึ่งในเกาะที่น่าสนใจก็คือเกาะหมากนั่นเอง โดยวันนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลที่ควรรู้หากนักท่องเที่ยวต้องการที่จะเดินทางมาเที่ยวที่เกาะหมากว่าเกาะหมากนั้นมีข้อมูลและมีประวัติอย่างไรบ้างและมีจุดไหนที่น่าสนใจสำหรับการมาเที่ยวที่เกาะแห่งนี้บ้าง 

       อย่างที่เรารู้กันดีว่าเกาะหมากนั้นตั้งอยู่ตรงบริเวณอ่าวไทยซึ่งเกาะหมากนั้นเป็นเกาะที่มีใหญ่พื้นที่โดยรวมแล้วอยู่ที่ประมาณเก้าพันไร่   หากมีการจัดสถิติขนาดพื้นที่ของเกาะที่มีความใหญ่เกาะหมากนับเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเลยทีเดียว   ด้วยกับแห่งนี้จะอยู่ระหว่างเกาะกูดกับเกาะช้างซึ่งถ้าหากนั่งเรือออกไปยังเกาะหมากจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางเนื่องจากว่าเกาะแห่งนี้ห่างจากชายฝั่งอยู่ที่ประมาณ 38 กิโลเมตร  

      อย่างไรก็ตามเกาะหมากถึงแม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแต่ก็ยังให้บรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะกับการมาพักผ่อนโดยที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของทางธรรมชาติเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้บนเกาะหรือแม้แต่ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไม่ว่าจะเป็นปะการังและสัตว์ใต้ทะเลนั่นเอง 

       สำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางมาเที่ยวที่เกาะหมากต้องบอกเลยว่าที่นี่จะไม่มีสิ่งดึงดูดใจมากนักเช่นพวกสถานบันเทิงต่างๆจะไม่มีเพราะที่นี่เน้นการท่องเที่ยวแบบเงียบสงบและต้องการคงสภาพความเป็นธรรมชาติเอาไว้ 100% ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเที่ยวบนเกาะหมากได้ด้วยการนั่งรับลมเย็นๆบนชายหาดหรืออาจจะล่องเรือพักผ่อนบริเวณรอบเกาะหมาก

นอกจากนี้ยังไปเยี่ยมชมสวนผลไม้หรือสวนยางของชาวบ้านได้และถ้าหากใครอยากจะจำน้ำดูแนวปะการังหรือดูสัตว์น้ำใต้ท้องทะเลก็ได้เช่นเดียวกันแต่ถ้าหากต้องการสถานที่ท่องเที่ยวแบบหรูหราเช่นผับจะไม่มีให้บริการบนเกาะหมากเพราะที่นี่จะเน้นการเที่ยวแบบเงียบสงบนั้นเอง 

        สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากจะมาพักผ่อนที่เกาะหมากแนะนำว่าควรจะเดินทางมาเที่ยวช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนเมษายนเพราะช่วงนี้เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าขึ้นลมในท้องทะเลไม่รุนแรงมากนักและแนะนำว่าในช่วงหน้าฝนไม่ควรจะมาเที่ยวที่เกาะหมาก

เพราะเกาะหมากอยู่ห่างจากชายฝั่งต้องใช้ระยะเวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่วโมงซึ่งถ้าหากมาเจอคลื่นลมแรงในช่วงจังหวะที่มีการเดินทางก็อาจจะเกิดอันตรายได้และที่สำคัญกิจกรรมก็อาจจะทำได้น้อยเพราะถ้าหากมีฝนตกหรือมีคลื่นลมแรงก็ไม่สามารถลงไปดำน้ำดูแนวปะการังได้นั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.  gclub สมัครสมาชิก